Page 199 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 199
๑๗๒
๕. การจ าแนกที่ดิน และการก าหนดแนวเขตที่ดิน พบว่า การจ าแนกที่ดิน และการก าหนด
แนวเขตที่ดินเพื่อการพัฒนาประเทศและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติที่ผ่านมา ประกอบกับจ านวน
ประชากรที่เพิ่มขึ้น มีการใช้ประโยชน์ในที่ดินอันหลากหลาย มีวิชาการใหม่ๆ ในการใช้ประโยชน์ในที่ดิน
ท าให้การใช้เส้นที่แสดงลักษณะความสูงต่ าของพื้นที่เป็นตัวก าหนดแนวเขตที่ดินตามการจ าแนก เป็นการ
ด าเนินการที่ล้าสมัย และไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงตามความเหมาะสมในการใช้ประโยชน์ตามศักยภาพของ
พื้นที่
๖. การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ พบว่า รัฐไม่มีการสร้างความ
เข้าใจกับประชาชน ให้ตระหนักถึงการเป็นพื้นที่แหล่งต้นน้ าล าธารที่ต้องมีการใช้ประโยชน์ร่วมกัน รักษาไว้
ให้คงอยู่ สร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนเข้าใจในด้านการอนุรักษ์อย่างถูกวิธี และก าหนดวิธีการในการ
อยู่กับพื้นที่ควรสงวนรักษาอย่างยิ่งนั้น แต่ในการด าเนินงานของหน่วยงานของรัฐที่ผ่านมา มีแต่ต้องการ
อพยพโยกย้ายประชาชนแห่งท้องที่นั้นเพียงอย่างเดียว ไม่แก้ไขโดยวิธีอื่น ท าให้ขาดการมีส่วนร่วม
ของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ที่มีผลกระทบกับระบบนิเวศ
๗. กระบวนการยุติธรรมกับการก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ พบว่า การก าหนดแนวเขตที่ดิน
ของรัฐที่เกิดการทับซ้อนที่ดินของประชาชนและท าให้ประชาขนเหล่านั้นเป็นผู้ที่ผิดกฎหมาย ถูกจับกุม
ด าเนินคดีตามที่กฎหมายก าหนด มีการเลือกปฏิบัติ มีการปล่อยปละละเลยต่อผู้กระท าความผิด มีการ
ด าเนินการทางคดีกับผู้ด้อยโอกาสและยากจนมากกว่านายทุนหรือผู้มีอิทธิพลหรือนักการเมือง
กระบวนการยุติธรรมใช้ระยะเวลานาน ผู้ยากจนไม่มีเงินประกันตัวและต่อสู้คดี
๘. ปัญหาแนวเขตที่ดินของรัฐ พบว่า ผลจากการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ โดยที่
มิได้ให้ประชาชนหรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้าไปมีส่วนร่วมในการด าเนินงาน ท าให้เกิดปัญหากระทบสิทธิ
ของประชาชนในด้านที่ดินท ากินและที่อยู่อาศัย มีข้อโต้แย้งอันเนื่องมาจากประชาชนไม่ทราบข้อมูลและ
ข้อเท็จจริงของหน่วยงานของรัฐที่ก าหนด หน่วยงานของรัฐไม่ทราบถึงความไม่พอใจของประชาชนและ
ไม่มีการเร่งรัดแก้ไขปัญหา
จึงเห็นได้ว่า หากได้ด าเนินการก าหนดแนวเขตพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ หรือกรณีแก้ไขปัญหา
ที่เกิดขึ้นจากการก าหนดแนวเขตไว้แล้ว ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนในการก าหนดแนวเขต
หรือในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น จะท าให้รัฐและประชาชนได้ทราบข้อมูลข้อเท็จจริง น ามาประกอบการ
ตัดสินใจได้อย่างถูกต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ท าให้มีการยอมรับไม่มีข้อโต้แย้ง ส่งผลให้ไม่ต้องมีการให้
แก้ไขปัญหากันอีกในอนาคต