Page 194 - รายงานผลการศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ เรื่อง แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
P. 194
๑๖๗
5.๖ การมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
บางพื้นที่ที่ก าหนดเป็นพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐ ประเภทพื้นที่อนุรักษ์ เช่น ป่าสงวน
แห่งชาติ หรืออุทยานแห่งชาติ หรือวนอุทยานแห่งชาติ หรือเขตห้ามล่าสัตว์ป่า พบว่า ประชาชนอาศัย
ท าประโยชน์ในพื้นที่อันเป็นจุดวิกฤตหรือล่อแหลมต่อระบบนิเวศที่ต้องคุ้มครองไว้เป็นอย่างยิ่ง
ก่อนหน่วยงานจะด าเนินงานตามโครงการควรมีการศึกษาถึงวิถีชุมชน ความเป็นอยู่ของประชาชนกลุ่มนั้น
ว่า ด าเนินวิถีชีวิตกันอย่างไร มีจุดที่รักษาหรือป้องกันมิให้กระทบกับสภาพแวดล้อมของระบบนิเวศ
ที่เป็นอยู่อย่างไร มีการก าหนดระเบียบปฏิบัติของชุมชนอย่างไรบ้าง การศึกษาในพื้นที่ล่อแหลมในพื้นที่
กรณีศึกษาพบว่า ได้มีข้อก าหนดของชุมชนไว้อย่างเคร่งครัดจนเป็นแบบอย่างได้ โดยไม่มีความจ าเป็นที่
จะต้องใช้นโยบายการอพยพโยกย้ายประชาชนออกจากพื้นที่อนุรักษ์นั้น เช่น พื้นที่กรณีศึกษาการ
เตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ าผาไท พื้นที่บ้านกลาง ต าบลบ้านดง อ าเภอแม่เมาะ จังหวัดล าปาง
เป็นต้น
ทั้งนี้ การสร้างความเข้าใจกับประชาชนที่อยู่ในบริเวณนั้น ให้ตระหนักถึงการเป็นพื้นที่
แหล่งต้นน้ าล าธารที่ต้องมีการใช้ประโยชน์ร่วมกัน รักษาไว้ให้คงอยู่ และกระทบกับเขาโดยตรง รัฐต้อง
สร้างการมีส่วนร่วมให้ประชาชนเข้าใจในด้านการอนุรักษ์อย่างถูกวิธี และก าหนดวิธีการในการอยู่กับพื้นที่
ควรสงวนรักษาอย่างยิ่งนั้นซึ่งจะดีกว่าการอพยพโยกย้ายประชาชนออกไป แต่หากต้องอพยพโยกย้าย
รัฐต้องให้การช่วยเหลือที่อยู่ใหม่ ท าให้สูญเสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ในพื้นที่เดิม หากประชาชนเข้ามา
บุกรุกภายหลังในพื้นที่นั้นต้องด าเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ดังนั้น ต้องสร้างการมีส่วนร่วม
ของประชาชนในพื้นที่ในการดูแลรักษาพื้นที่สงวนหวงห้ามของรัฐประเภทพื้นที่อนุรักษ์ ทั้งการใช้
ประโยชน์อย่างถูกวิธีการและการรักษาไว้อย่างยั่งยืน
แต่ในการด าเนินงานของหน่วยงานของรัฐที่ผ่านมา มีแต่ต้องการอพยพโยกย้าย
ประชาชนแห่งท้องที่นั้นเพียงอย่างเดียว ไม่แก้ไขโดยวิธีอื่น ท าให้ขาดการมีส่วนร่วมของประชาชนในการ
อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ที่มีผลกระทบกับระบบนิเวศ
5.๗ กระบวนการยุติธรรมกับการก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐ
การก าหนดแนวเขตที่ดินของรัฐที่เกิดการทับซ้อนที่ดินของประชาชนและท าให้ประชาขน
เหล่านั้นเป็นผู้ที่ผิดกฎหมาย ถูกจับกุมด าเนินคดีตามที่กฎหมายก าหนด
ในประเด็นนี้พบว่า กระบวนการด าเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่มีความผิดฐานเข้าใช้
ประโยชน์ในที่ดินสงวนหวงห้ามของรัฐได้สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ยากจน โดยพบว่ามีความไม่เป็นธรรม
เกิดขึ้นใน ๒ ประการ คือ
(๑) ความไม่เสมอภาค มีการเลือกปฏิบัติ จากการที่มีการปล่อยปละละเลยต่อผู้กระท า
ความผิด มีการด าเนินการทางคดีกับผู้ด้อยโอกาสและยากจนมากกว่านายทุนหรือผู้มีอิทธิพล