Page 47 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 47

๒ ประเภท คือ พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบทำาคดี กับผู้บังคับบัญชาที่เป็นผู้แถลงข่าว  ซึ่งในการนำา
                 ตัวผู้ต้องหาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุ  กรณีที่สื่อมวลชนไปทำาข่าวในพื้นที่เกิดเหตุ ซึ่งหากประชาชนทราบข่าวจาก

                 สื่อมวลชนแล้วมามุงดูเป็นจำานวนมาก  พนักงานสอบสวนก็ต้องให้การคุ้มครองความปลอดภัยให้กับ
                 ผู้ต้องหาเพราะหากผู้ต้องหาถูกทำาร้าย พนักงานสอบสวนจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบ ซึ่งวัตถุประสงค์ของ

                 พนักงานสอบสวน คือ ต้องการรวบรวมพยานหลักฐานให้ได้มากที่สุดเพื่อให้ศาลเชื่อว่า ผู้กระทำาความผิด
                 เป็นคนร้ายในคดีโดยไม่ต้องการให้เป็นข่าว ซึ่งการนำาชี้ที่เกิดเหตุเป็นสิทธิของผู้ต้องหา  หากผู้ต้องหา

                 ให้การปฏิเสธและขอให้การในชั้นศาล หรือกรณีที่ผู้ต้องหารับสารภาพแต่ไม่ต้องการนำาชี้ที่เกิดเหตุ ก็เป็น
                 สิทธิของผู้ต้องหาที่สามารถกระทำาได้  ส่วนการนำาเสนอข่าวในบางครั้งก็เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ

                 ซึ่งต้องพิจารณาในแต่ละกรณี
                               ๒.  การรวบรวมพยานหลักฐานของพนักงานสอบสวน คือ ให้รวบรวมพยานหลักฐาน

                 ทุกชนิดที่พิสูจน์ได้ว่าจำาเลยมีผิดหรือบริสุทธิ์  โดยในการรวบรวมพยานหลักฐานพนักงานสอบสวนจะ
                 ไม่บอกให้สื่อมวลชนทราบ  แต่ในบางกรณีผู้บังคับบัญชาจะบอกให้พนักงานสอบสวนนำาตัวผู้ต้องหา

                 ไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และมีสื่อมวลชนจะตามไปในที่เกิดเหตุเอง


                       ๓.๔ บทความเรื่อง “ข้อพิจารณาเรื่องแผนประทุษกรรม”  โดยผู้พิพากษาศาลยุติธรรม จาก
                 วารสารอัยการ เดือนธันวาคม ๒๕๓๕  สรุปได้ ดังนี้

                           ประเทศสหรัฐอเมริกา จะไม่มีกฎหมายหรือหลักการปฏิบัติเกี่ยวกับการจัดให้มีการทำาแผน

                 ประทุษกรรมในลักษณะผู้ต้องหานำาชี้ที่เกิดเหตุ หรือให้แสดงลักษณะท่าทางรายละเอียดของการ
                 กระทำาความผิดแต่อย่างใด  หากจะมีก็แต่เฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับการชี้ตัวผู้ต้องหาเพื่อให้พยาน

                 หลักฐานที่น่าเชื่อว่าผู้ต้องหานั้นคือคนร้ายจริง  และส่วนใหญ่จะมองกันในแง่มุมของปัญหาว่า  การที่
                 เจ้าพนักงานตำารวจกำาหนดให้ผู้ต้องหาหรือบุคคลใดส่งลายนิ้วมือ ถ่ายภาพ ให้เขียน ให้พูด  ในการ

                 ชี้ตัวให้มาศาล ให้ยืนแสดงตน ให้สมมุติการวางท่าทาง ให้เดิน หรือให้ทำากิริยาเฉพาะอย่างใดอย่างหนึ่ง
                 เป็นสิ่งที่ขัดต่อหลักการที่จะไม่ถูกบังคับให้ต้องให้การเป็นปฏิปักษ์ต่อตนเอง ฯลฯ


                       ๓.๕ วิทยานิพนธ์ เรื่อง “การทำาแผนประทุษกรรมประกอบคำารับสารภาพในระบบกฎหมายไทย”

                 โดยนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สรุปได้ ดังนี้

                           ประเทศอังกฤษมีการจัดให้มีการจัดทำาแผนประทุษกรรมประกอบคำารับสารภาพนอกสถานที่
                 แต่เฉพาะในกรณีที่มีความจำาเป็นและผู้ต้องหายินยอมเท่านั้น  และหากการทำาแผนประทุษกรรม
                 ประกอบคำารับสารภาพเกิดขึ้นโดยมิชอบจะส่งผลให้ไม่สามารถรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้  โดยศาล

                 จะใช้ดุลพินิจตัดพยานหลักฐานที่จำาเป็นต่อการรักษาและปกป้องสิทธิที่สำาคัญของผู้ต้องหาออกไป

                 เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมในการพิจารณาคดี  ทั้งนี้ โดยคำานึงถึงความปลอดภัย และการกระทำาใน
                 ลักษณะการประจานเป็นหลัก  และหากมีการกระทำาอื่นใดที่เป็นการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับบุคลิก
                 ลักษณะหรือความประพฤติของผู้ต้องหา  อันอาจมีผลต่อการครอบงำาการตัดสินคดีของคณะลูกขุน

                 และอาจทำาให้เกิดอคติต่อผู้ต้องหา  เป็นผลให้เกิดความไม่เที่ยงธรรมในการพิจารณาคดีทั้งในชั้น



            46

            สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
            กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52