Page 43 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 43
“เพื่อประโยชน์แห่งคดี” นั้น ไม่อาจไปลบล้างสิทธิของบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญให้การคุ้มครองและ
รับรองไว้
กล่าวโดยสรุป คือ
๑. ต้องเคารพการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องทำาหน้าที่ในการบำาบัดทุกข์
บำารุงสุขของประชาชน และประสิทธิภาพในการจับกุมผู้กระทำาผิด โดยในการจัดทำาแผนประทุษกรรม
จะทำาอย่างไรเพื่อหลีกเลี่ยงมิให้กระทบต่อสิทธิส่วนบุคคล เกียรติยศ ชื่อเสียง ตลอดจนความเป็นอยู่
ส่วนตัว ทั้งนี้ จะต้องรวมถึงการคำานึงสิทธิของผู้เสียหายด้วย
๒. ในส่วนของสื่อมวลชน เนื่องจากสื่อมวลชนของประเทศไทยไม่มีองค์กรวิชาชีพ
ในการให้คุณประโยชน์หรือการลงโทษ ดังนั้น สื่อมวลชนจึงต้องมีการพูดคุยในเรื่องของวิชาชีพและ
ขอบเขตในการปฏิบัติงานซึ่งต้องตระหนักและคำานึงถึงการเคารพสิทธิส่วนบุคคล
ในส่วนของประเด็นสิทธิส่วนบุคคลกับประโยชน์สาธารณะ กรณีที่เกิดอาชญากรรมขึ้น
ประโยชน์สาธารณะที่ประชาชนควรจะรู้ คือ ข้อเท็จจริงในการกระทำาความผิด แต่มิใช่การนำาเสนอ
ชื่อ–นามสกุล ของผู้กระทำาผิด ซึ่งสิทธิส่วนบุคคลไม่อาจทดแทนด้วยประโยชน์สาธารณะ การรายงาน
ข้อเท็จจริงเพื่อให้สังคมได้รับรู้และตระหนักและเป็นการเตือนภัยให้สังคมเกิดความระมัดระวัง ซึ่งต้อง
ทำาให้เกิดความสมดุลในเรื่องของการรับรู้ของสังคมกับการเคารพสิทธิส่วนบุคคล ทั้งนี้ ควรมีการ
จัดทำาแนวทางการดำาเนินงานและการกำาหนดขอบเขตว่า เรื่องใดควรที่จะทำาแผนประทุษกรรม ซึ่งใน
บางเรื่องไม่จำาเป็นที่จะต้องทำา และหากจะต้องทำาแผนประทุษกรรมจะทำาอย่างไรเพื่อให้ได้พยาน
หลักฐานครอบคลุมครบถ้วน โดยในการแถลงข่าวไม่จำาเป็นที่จะต้องเอาตัวผู้ต้องหามาเป็นส่วนสำาคัญ
และไม่ควรเป็นการประชาสัมพันธ์ผลงานของเจ้าหน้าที่ตำารวจบางคน เนื่องจากไม่ได้เป็นประโยชน์
ต่อกระบวนการรวบรวมพยานหลักฐานในการดำาเนินคดี แต่หากเป็นการแถลงข่าวในภาพรวมเพื่อ
ให้เห็นถึงประสิทธิภาพการทำางานของหน่วยงานก็เป็นสิ่งควรทำา ซึ่งการให้ข่าวควรมีการปกปิดชื่อ–
นามสกุล และควรนำาเสนอภาพที่ไม่ทำาให้รู้ว่าเป็นใคร เช่น อาจมีการใส่หมวกโม่งคลุมใบหน้า เป็นต้น
ผู้แทนสื่อมวลชน ได้แสดงความคิดเห็น สรุปได้ ดังนี้
จากหัวข้อการสัมมนาสามารถแยกผู้ต้องหาได้ออกเป็น ๒ กลุ่ม คือ
๑. ผู้ต้องหาในคดีอาญา
๒. ผู้ต้องหาที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ละเมิดสิทธิ ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำารวจ
สื่อมวลชน และบุคคลที่เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรม
ทั้งนี้ ได้ให้ข้อสังเกตว่า ควรมีการพิจารณาในมุมที่กว้าง เช่น เรื่องของสิทธิของ
ผู้เสียหาย สิทธิของโจทก์ สิทธิของสังคม สิทธิในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของประชาชน สิทธิของผู้ต้องหา
ที่ควรได้รับการคุ้มครอง และหน้าที่ของสื่อมวลชนในการรายงานข่าวหรือรายงานความเป็นจริงที่
เกิดขึ้นให้สังคมได้รับรู้ โดยจะทำาอย่างไรเพื่อให้เกิดความสมดุลและเกิดความพอดีสมควร ซึ่งต้อง
คำานึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและประโยชน์สาธารณะ
42
สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน