Page 50 - สิทธิในกระบวนการยุติธรรมและสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง กรณีการนำตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำรับสารภาพและการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
P. 50
ถ้อยคำาใดๆ ที่ผู้ต้องหาให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวนก่อนมีการแจ้งสิทธิตามวรรคหนึ่ง หรือก่อน
ที่จะดำาเนินการตามมาตรา ๑๓๔/๑ มาตรา ๑๓๔/๒ และมาตรา ๑๓๔/๓ จะรับฟังเป็นพยานหลักฐาน
ในการพิสูจน์ความผิดของผู้นั้นไม่ได้
ม�ตร� ๒๒๖ พยานวัตถุ พยานเอกสาร หรือพยานบุคคลซึ่งน่าจะพิสูจน์ได้ว่าจำาเลยมีผิด
หรือบริสุทธิ์ ให้อ้างเป็นพยานหลักฐานได้ แต่ต้องเป็นพยานชนิดที่มิได้เกิดขึ้นจากการจูงใจ มีคำามั่น
สัญญา ขู่เข็ญ หลอกลวง หรือโดยมิชอบประการอื่น และให้สืบตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้
หรือกฎหมายอื่นอันว่าด้วยการสืบพยาน
ม�ตร� ๒๒๖/๑ ในกรณีที่ความปรากฏแก่ศาลว่า พยานหลักฐานใดเป็นพยานหลักฐานที่
เกิดขึ้นโดยชอบแต่ได้มาเนื่องจากการกระทำาโดยมิชอบ หรือเป็นพยานหลักฐานที่ได้มาโดยอาศัยข้อมูล
ที่เกิดขึ้นหรือได้มาโดยมิชอบ ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานนั้น เว้นแต่การรับฟังพยานหลักฐาน
นั้นจะเป็นประโยชน์ต่อการอำานวยความยุติธรรมมากกว่าผลเสียอันเกิดจากผลกระทบต่อมาตรฐาน
ของระบบงานยุติธรรมทางอาญาหรือสิทธิเสรีภาพพื้นฐานของประชาชน
ในการใช้ดุลพินิจรับฟังพยานหลักฐานตามวรรคหนึ่ง ให้ศาลพิจารณาถึงพฤติการณ์ทั้งปวง
แห่งคดี โดยต้องคำานึงถึงปัจจัยต่างๆ ดังต่อไปนี้ด้วย
(๑) คุณค่าในเชิงพิสูจน์ ความสำาคัญ และความน่าเชื่อถือของพยานหลักฐานนั้น
(๒) พฤติการณ์และความร้ายแรงของความผิดในคดี
(๓) ลักษณะและความเสียหายที่เกิดจากการกระทำาโดยมิชอบ
(๔) ผู้ที่กระทำาการโดยมิชอบอันเป็นเหตุให้ได้พยานหลักฐานมานั้นได้รับการลงโทษหรือไม่
เพียงใด
ม�ตร� ๒๒๖/๒ ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานที่เกี่ยวกับการกระทำาความผิดครั้งอื่นๆ
หรือความประพฤติในทางเสื่อมเสียของจำาเลย เพื่อพิสูจน์ว่าจำาเลยเป็นผู้กระทำาความผิดในคดีที่ถูกฟ้อง
เว้นแต่พยานหลักฐานอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้
(๑) พยานหลักฐานที่เกี่ยวเนื่องโดยตรงกับองค์ประกอบความผิดของคดีที่ฟ้อง
(๒) พยานหลักฐานที่แสดงถึงลักษณะ วิธี หรือรูปแบบเฉพาะในการกระทำาความผิดของ
จำาเลย
(๓) พยานหลักฐานที่หักล้างข้อกล่าวอ้างของจำาเลยถึงการกระทำา หรือความประพฤติใน
ส่วนดีของจำาเลย
ความในวรรคหนึ่งไม่ห้ามการนำาสืบพยานหลักฐานดังกล่าว เพื่อให้ศาลใช้ประกอบดุลพินิจ
ในการกำาหนดโทษหรือเพิ่มโทษ
ม�ตร� ๒๒๗ ให้ศาลใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำาหนักพยานหลักฐานทั้งปวง อย่าพิพากษาลงโทษ
จนกว่าจะแน่ใจว่ามีการกระทำาความผิดจริงและจำาเลยเป็นผู้กระทำาความผิดนั้น
เมื่อมีความสงสัยตามสมควรว่าจำาเลยได้กระทำาผิดหรือไม่ ให้ยกประโยชน์แห่งความสงสัยนั้น
ให้จำาเลย
49
สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และสิทธิของบุคคลในเกียรติยศและชื่อเสียง
กรณีการนำาตัวผู้ต้องหาในคดีอาญาไปนำาชี้ที่เกิดเหตุประกอบคำารับสารภาพ และการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน