Page 97 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 97

95
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                        ๔.๓  การรับฟังความเห็นจากภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงาน

                             คณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริม

                  และคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ได้รับฟังข้อมูลและความเห็นเรื่องการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่าง
                  ประเทศดังกล่าว จากภาครัฐ ภาคเอกชน นักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญด้านแรงงาน ทั้งหมด ๔ ครั้ง ดังนี้  ครั้งที่ ๑
                  เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๕๗  ครั้งที่ ๒ เมื่อวันที่ ๑๙ สิงหาคม ๒๕๕๗  ครั้งที่ ๓ เมื่อวันที่ ๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘

                  และครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๕๘ มีสาระสำาคัญโดยสรุป ดังนี้

                             ๔.๓.๑ การรับฟังความเห็นจากภาครัฐ

                                    ๑)  ผู้แทนของกรมสวัสดิก�รและคุ้มครองแรงง�น
                                        ๑.๑)  กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้เตรียมการรองรับการเข้าเป็นภาคี

                  อนุสัญญาทั้งสองฉบับ โดยดำาเนินการควบคู่กับการแก้ไขกฎหมายภายในสองฉบับ ได้แก่ พระราชบัญญัติแรงงาน
                  สัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ และพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓ ให้อนุวัติตามอนุสัญญานี้

                                        ๑.๒)  ปี ๒๕๕๓ คณะรัฐมนตรีซึ่งมี นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้
                  อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์

                  พ.ศ. ....  พร้อมกับอนุมัติการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ ๘๗ และฉบับที่ ๙๘
                  และเสนอเรื่องการเข้าเป็นภาคีไปยังรัฐสภาเพื่อเห็นชอบแล้วขอถอนเรื่องในภายหลัง  และปี ๒๕๕๖ รัฐบาล
                  นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มีมติเห็นชอบเรื่องการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญา ILO ทั้งสองฉบับ  ตามที่กระทรวงแรงงาน

                  เสนอและนำาเสนอรัฐสภา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศเห็นควรให้แก้ไขกฎหมายก่อน  ต่อมามีการยุบสภา
                  ผู้แทนราษฎร ในปี ๒๕๕๖ และมีรัฐประหารในปี ๒๕๕๗  การเสนอเรื่องการเข้าเป็นภาคีจึงเป็นอันระงับไว้

                  ในปี ๒๕๕๗  สำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับแล้วเสร็จ ปี ๒๕๕๘
                  กระทรวงแรงงานได้เสนอร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับต่อคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอนุมัติก่อนเสนอ
                  สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) พิจารณาต่อไป  ปัจจุบันร่างพระราชบัญญัติทั้งสองได้เสนอไปยังเลขาธิการ

                  คณะรัฐมนตรี แต่คณะกรรมการปฏิรูปกฎหมายมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี  และนายชาลี ลอยสูง คณะกรรมการ
                  สมานฉันท์แรงงานไทยได้ยื่นหนังสือต่อสำานักนายกรัฐมนตรี ขอให้ชะลอเรื่องนี้ไว้ก่อน

                                        ๑.๓)  หลักการตามอนุสัญญา ILO ทั้งสองฉบับ การรวมตัวของคนทำางานในรูปของ
                  สมาคม สมาพันธ์ สหกรณ์ ชมรม จะมีกฎหมายรองรับหรือไม่มีก็ได้  มีวัตถุประสงค์เพื่อแสวงหาและคุ้มครอง
                  ประโยชน์เกี่ยวกับสภาพการจ้าง  และส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง ระหว่างองค์กร เพื่อ

                  ส่งเสริมการศึกษาและส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ในการรวมตัวของคนทำางานข้างต้น  โดยห้ามรัฐเข้าไปจำากัด
                  สิทธิการรวมตัวของคนทำางาน  เว้นแต่ที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญหรือกฎหมายซึ่งต้องกระทำาเท่าที่จำาเป็นและต้อง

                  ไม่กระทบถึงสาระสำาคัญแห่งสิทธิการรวมตัว
                                        ๑.๔)  สำาหรับความเห็นต่อกฎหมายและร่างกฎหมายแรงงานสัมพันธ์ มีดังนี้

                                             ๑.๔.๑)  พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๑๘ และพระราชบัญญัติ
                  แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓  เป็นการจัดระบบการรวมตัวเป็นองค์กรลูกจ้างและนายจ้างให้เป็น

                  ระเบียบเพื่อคุ้มครองประโยชน์ส่วนรวมของประชาชน  เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของ
                  ประชาชน ไม่เป็นการจำากัดสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ และไม่ถือเป็นการแทรกแซงของรัฐตามอนุสัญญา ILO
   92   93   94   95   96   97   98   99   100   101   102