Page 90 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 90

88   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                                 รัฐสภา คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และ

               หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๒๕ และมาตรา ๒๖ ดังนี้

                                 ๑)  ควรเพิ่มเติมกรรมการที่เป็นผู้แทนของผู้เสียหายคดีทรมาน ๑ คน และผู้แทนของ
               ผู้เสียหายคดีบังคับบุคคลให้สูญหาย ๑ คน โดยควรคำานึงถึงสัดส่วนของผู้หญิงและผู้ชาย

                                 ๒)  ควรเพิ่มเติมให้มีผู้แทนภาคประชาสังคมเป็นกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

                           ๗.๒.๕  การสืบสวนสอบสวนคดีทรมานและคดีบังคับบุคคลให้สูญหาย
                                 ร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๓๘ วรรคสาม  บัญญัติว่าการมอบหมายพนักงานสอบสวน

               และพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีทรมานและคดีบังคับบุคคลให้สูญหายตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง
               ให้คำานึงถึงหลักประสิทธิภาพและหลีกเลี่ยงมิให้เกิดความขัดกันของตำาแหน่งหน้าที่ของผู้ถูกกล่าวหากับผู้เป็น
               พนักงานสอบสวน ซึ่งอาจไม่ประกันว่าพนักงานสอบสวน/พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบคดีทรมานและคดีบังคับ

               บุคคลให้สูญหายแล้วแต่กรณี และผู้ถูกสอบสวนจะไม่อยู่ภายใต้สังกัดหน่วยงานเดียวกัน
                                 รัฐสภา คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และ

               หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องควรแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๓๘ ว่า ผู้ได้รับมอบหมายให้เป็นพนักงาน
               สอบสวนและพนักงานผู้รับผิดชอบคดีทรมาน และคดีบังคับบุคคลให้สูญหายต้องไม่อยู่ในหน่วยงานของรัฐ

               สังกัดเดียวกับผู้ถูกสอบสวน

                           ๗.๒.๖  การกำาหนดสถานะทางกฎหมายของผู้ถูกบังคับให้สูญหายและญาติ  และการ
               คุ้มครองเด็กที่ได้รับผลกระทบจากการถูกบังคับให้สูญหาย

                                 ร่างพระราชบัญญัติฯ ไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับสถานะทางกฎหมายของบุคคลที่ถูกบังคับ
               ให้สูญหายและสถานะทางกฎหมายของญาติของบุคคลดังกล่าว  และแม้ร่างพระราชบัญญัติฯ มีบทเพิ่มโทษ

               สำาหรับการกระทำาผิดคดีทรมานและคดีบังคับให้สูญหายที่ผู้กระทำาเป็นเด็ก  แต่ไม่มีบทบัญญัติเกี่ยวกับมาตรการ
               ป้องกันและลงโทษต่อผู้กระทำาผิดคดีบังคับบุคคลให้สูญหายที่มีผู้เสียหายเป็นเด็ก หรือที่เด็กเป็นผู้ได้รับผลกระทบ

               จากการกระทำาดังกล่าว เช่น เด็กที่บิดามารดาหรือผู้ปกครองถูกบังคับให้สูญหาย หรือเด็กที่เกิดระหว่างมารดา
               ถูกใช้กำาลังบังคับให้สูญหาย เป็นต้น  อันไม่สอดคล้องตามอนุสัญญา CPED  ข้อ ๒๕  วรรคหนึ่ง  และวรรคสี่  และ
               ข้อ ๒๔ วรรคหก

                                 คณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และหน่วยงานอื่น
               ที่เกี่ยวข้อง ควรแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในร่างพระราชบัญญัติฯ ดังนี้

                                 ๑)  กำาหนดสถานะทางกฎหมายของบุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหายซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรม
               และสถานะทางกฎหมายของญาติของบุคคลดังกล่าว

                                 ๒)  กำาหนดมาตรการป้องกันและลงโทษผู้กระทำาผิดคดีบังคับบุคคลให้สูญหายที่มีผู้เสียหาย

               เป็นเด็ก หรือที่เด็กเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากการบังคับบุคคลให้สูญหาย รวมทั้งไม่ให้รับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
               หรืออุปการะเด็กซึ่งมีที่มาจากการที่บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
   85   86   87   88   89   90   91   92   93   94   95