Page 88 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 88

86   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


               ยุติธรรม หรือจากการใช้นโยบาย หรือการบริหาร หรือการกระทำาที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประชาชน รวมถึง

               ผู้ได้รับความเสียหายคดีทรมานและคดีบังคับบุคคลให้สูญหาย สำาหรับเป็นแนวทางให้หน่วยงานของรัฐนำาไป
               ปฏิบัติอย่างเป็นมาตรฐานเดียวกัน


                     ๗.๒  ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย

                           ๗.๒.๑ การกระทำาหรือการลงโทษที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี (CID)

                                 ร่างพระราชบัญญัติฯ  มาตรา  ๓  (๒)  ได้นิยามคำาว่า  การกระทำาหรือการลงโทษที่โหดร้าย
                                ่
               ไร้มนุษยธรรม หรือที่ยำายีศักดิ์ศรี แต่ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าหมายถึงการกระทำาลักษณะใดบ้าง และไม่มีบทกำาหนดโทษ
               สำาหรับการกระทำาดังกล่าว อนุสัญญา CAT ก็ไม่ได้กำาหนดอย่างชัดเจนว่าการกระทำาใดบ้างที่เข้าข่าย CID และไม่ได้

               ระบุให้รัฐภาคีต้องกำาหนดให้การกระทำาดังกล่าวเป็นความผิดอาญา
                                 รัฐสภา และคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) ควรแก้ไข

               เพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติฯ  มาตรา  ๕  ว่าผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ  กระทำาการที่เป็นการกระทำาหรือการลงโทษ
                                         ่
               ที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ยำายีศักดิ์ศรี ให้พิจารณาโทษอาญา และอาจรับผิดตามกฎหมาย ระเบียบอื่น เช่น
               ทางวินัย ทางแพ่ง ทางปกครอง หรือทางการเมืองด้วยก็ได้ เป็นต้น

                           ๗.๒.๒  บทลงโทษคดีทรมาน/คดีบังคับบุคคลให้สูญหายและการสืบสวนคดีบังคับบุคคล
               ให้สูญหาย

                                 ร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๕ - ๗ ได้กำาหนดบทลงโทษการกระทำาผิดคดีทรมานและ
               คดีบังคับบุคคลให้สูญหายเป็นโทษจำาคุกและโทษปรับตามระดับความร้ายแรงของการกระทำาผิด มีโทษจำาคุก
               ตลอดชีวิตเป็นโทษสูงสุด อันสอดคล้องกับแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๕๗ - ๒๕๖๑) ว่าด้วย

               แผนสิทธิมนุษยชนด้านกระบวนการยุติธรรม ขณะเดียวกันก็ควรมีมาตรการที่ประกันความปลอดภัยให้แก่สังคมว่า
               ผู้กระทำาผิดร้ายแรงคดีดังกล่าวจะไม่ถูกปล่อยตัวเร็วกว่าโทษที่กำาหนด และมาตรา ๑๖ ซึ่งบัญญัติให้ดำาเนินคดีบังคับ

               บุคคลให้สูญหายจนกว่าจะพบบุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหาย หรือปรากฏหลักฐานว่าบุคคลนั้นถึงแก่ความตายนั้น
               ไม่ประกันว่าผู้กระทำาผิดจะได้รับการลงโทษ

                                 รัฐสภา และคณะรัฐมนตรี โดยกระทรวงยุติธรรม (กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ) และ
               หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรแก้ไขเพิ่มเติมเงื่อนไขในร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๕ และ ๖ ว่ามิให้ใช้มาตรการอัน

               เป็นคุณแก่นักโทษเด็ดขาดคดีทรมาน/คดีบังคับบุคคลให้สูญหายที่เป็นความผิดร้ายแรง จนกว่าระยะเวลารับโทษ
               เกินกว่ากึ่งหนึ่งของโทษหรือภายในระยะเวลาที่กำาหนด และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา ๑๖ จากให้สืบสวนจนกว่าจะพบ
               บุคคลที่ถูกบังคับให้สูญหาย หรือปรากฏหลักฐานว่าบุคคลนั้นถึงแก่ความตาย เป็นจนกว่าจะสามารถนำาผู้กระทำาผิด

               มาลงโทษ

                           ๗.๒.๓  ข้อห้ามไม่ให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐส่งตัวบุคคลออกนอก
               ราชอาณาจักร

                                 ร่างพระราชบัญญัติฯ มาตรา ๒๔ กำาหนดหลักการว่า ให้ส่งบุคคลออกนอกราชอาณาจักร
               ยกเว้น หากการส่งตัวบุคคลออกนอกราชอาณาจักรนั้น เป็นที่เชื่อว่าจะส่งผลให้ผู้นั้นถูกกระทำาทรมานหรือ
               ถูกบังคับให้สูญหาย เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติฯ ไม่มีบทบัญญัติถึงแนวปฏิบัติในเรื่องนี้  จึงอาจกำาหนดให้
   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92   93