Page 42 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 42

40  ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


               ผู้เจ็บป่วยเนื่องจากประสบภัยจากรถให้เบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลจากกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยก่อน แล้วจึง

               เบิกส่วนที่เบิกจ่ายไม่ได้จากระบบบริการสาธารณสุขที่ผู้นั้นมีสิทธิ  ทั้งนี้ เห็นควรโอนกองทุนทดแทนผู้ประสบภัย
               มาอยู่ภายใต้การดูแลของรัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุข และทบทวนอัตราค่าเสียหายเบื้องต้นโดยให้ค่าเสียหาย

               เบื้องต้นกรณีเจ็บป่วยสูงกว่ากรณีเสียชีวิต

                           ๓.๒.๘  ผู้แทนของสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.)
                                 (๑) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) ได้มีประกาศคณะกรรมการการแพทย์

               ฉุกเฉินแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การประเมินเพื่อคัดแยกระดับความฉุกเฉินและมาตรฐานการปฏิบัติการฉุกเฉิน
               พ.ศ. ๒๕๕๔ เพื่อการคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉิน โดยให้สถานพยาบาล หน่วยปฏิบัติการ และผู้ตรวจ
               คัดแยกระดับความฉุกเฉินและจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินตามลำาดับความเร่งด่วนทางการแพทย์

               ฉุกเฉิน ทั้งนี้ ได้กำาหนดให้ใช้เกณฑ์การประเมินตามแนวทางการคัดแยกของ Emergency Severity Index (ESI)
               Version 4  แบ่งระดับความฉุกเฉินเป็น ๕ ระดับ ได้แก่

                                     (๑.๑)  ผู้ป่วยฉุกเฉินวิกฤต ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยกะทันหัน
               ซึ่งมีภาวะคุกคามต่อชีวิต  ซึ่งหากไม่ได้รับปฏิบัติการแพทย์ทันทีเพื่อแก้ไขระบบการหายใจ ระบบไหลเวียนเลือด
               หรือระบบประสาทแล้ว  ผู้ป่วยจะมีโอกาสเสียชีวิตได้สูงหรือทำาให้การบาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น

               รุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้อย่างฉับไว ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีแดง”

                                     (๑.๒)  ผู้ป่วยฉุกเฉินเร่งด่วน ได้แก่ บุคคลที่ได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมีภาวะ
               เฉียบพลันมาก หรือเจ็บปวดรุนแรงอันอาจจำาเป็นต้องได้รับปฏิบัติการแพทย์อย่างรีบด่วน มิฉะนั้นจะทำาให้การ
               บาดเจ็บหรืออาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้นหรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้น  ซึ่งส่งผลให้เสียชีวิตหรือพิการ

               ในระยะต่อมาได้  ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเหลือง”

                                     (๑.๓)  ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่รุนแรง ได้แก่ บุคคลซึ่งได้รับบาดเจ็บหรือมีอาการป่วยซึ่งมี
               ภาวะเฉียบพลันไม่รุนแรง อาจรอรับปฏิบัติการแพทย์ได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่งหรือเดินทางไปรับบริการสาธารณสุข
               ด้วยตนเองได้  แต่จำาเป็นต้องใช้ทรัพยากรและหากปล่อยไว้เกินเวลาอันสมควรแล้ว จะทำาให้การบาดเจ็บหรือ

               อาการป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้นรุนแรงขึ้น หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนขึ้นได้ ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีเขียว”
                                     (๑.๔)  ผู้ป่วยทั่วไป ได้แก่ บุคคลที่เจ็บป่วยแต่ไม่ใช่ผู้ป่วยฉุกเฉิน ซึ่งอาจรอรับหรือ

               เลือกสรรบริการสาธารณสุขในเวลาทำาการปกติได้ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการที่รุนแรงขึ้นหรือภาวะแทรกซ้อนตามมา
               ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีขาว”

                                     (๑.๕)  ผู้รับบริการสาธารณสุขอื่น ได้แก่ บุคคลซึ่งมารับบริการสาธารณสุขหรือ
               บริการอื่น  โดยไม่จำาเป็นต้องใช้ทรัพยากร  ให้ใช้สัญลักษณ์ “สีดำา”

                                 (๒) ปัญหาการปฏิบัติตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ เกิดจากเงื่อนไขการจ่ายเงินของ
               สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งกำาหนดว่าเป็นการเจ็บป่วยฉุกเฉินหรือไม่  หากไม่เข้าข่ายเจ็บป่วย

               ฉุกเฉิน  โรงพยาบาลที่ให้การรักษาก็ไม่สามารถเบิกจ่ายเงินคืนได้  โรงพยาบาลที่ให้การรักษาเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้
               ผู้เจ็บป่วยหรือไม่  อัตราการเบิกจ่ายเงินคืน ระยะเวลาพ้นวิกฤต สำาหรับเงื่อนไขการอยู่ในข่ายการเจ็บป่วย
               ฉุกเฉินหรือไม่นั้น  ในส่วนของแพทย์ไม่ค่อยมีปัญหาเนื่องจากมีเกณฑ์แล้ว  ส่วนผู้ป่วยอาจมีปัญหาบ้างเนื่องจาก

               การแปลความเจ็บป่วยฉุกเฉินตามความรู้สึกส่วนตัว ขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือ โดยมีสำานักงานหลักประกัน
   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47