Page 38 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 38
36 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
กรณีโรงพยาบาลของรัฐในเรื่องนี้ ซึ่งตามนโยบายนี้กำาหนดให้โรงพยาบาลที่ทำาการรักษาเก็บค่ารักษาพยาบาล
จากสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติโดยตรง ไม่ต้องเรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วย
(๒) นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ มีสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นผู้รับผิดชอบหลัก
ปัญหาที่เกิดขึ้น คือ ผู้ป่วยบางรายไม่ได้เจ็บป่วยฉุกเฉินแต่ขอใช้สิทธินี้ จึงควรระบุในระเบียบให้รัดกุม โรง
พยาบาลเอกชนหลายแห่งคิดค่ารักษาพยาบาลอัตราที่สูง การแก้ปัญหาเรื่องนี้จำาเป็นต้องแก้ทั้งระบบ โดยอาจขอ
ความร่วมมือไปยังสำานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีว่าการกระทรวง
สาธารณสุขแต่ละครั้งมักมีผลทำาให้การปฏิบัติตามนโยบายต่างๆ รวมทั้งนโยบายนี้ไม่ต่อเนื่อง ทั้งนี้ กระทรวง
สาธารณสุขรับผิดชอบการควบคุมคุณภาพและมาตรฐานการให้บริการของสถานพยาบาลต่างๆ แต่ไม่รวมถึง
การควบคุมเพดานค่ารักษาพยาบาล
๓.๒.๒ ผู้แทนของสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
(๑) นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ สามารถเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลใดก็ได้ เป็นนโยบาย
ที่ดี แต่ทางปฏิบัติพบว่า การประชาสัมพันธ์ยังไม่ครอบคลุม เมื่อเข้ารับการรักษาพยาบาล ผู้ป่วยหรือญาติจะถูก
โรงพยาบาลเอกชนบางแห่งให้ลงลายมือชื่อในหนังสือรับสภาพค่ารักษาพยาบาลซึ่งมีราคาสูงหรือถูกฟ้อง เมื่อผู้ป่วย
หรือญาติแจ้งความประสงค์ขอใช้สิทธิการรักษากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน โรงพยาบาลมักอ้างว่าไม่ได้เข้าร่วมโครงการ
ดังกล่าว เป็นต้น
(๒) นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้บังคับกับโรงพยาบาลเอกชนที่ไม่ได้
เป็นคู่สัญญาของระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ซึ่งมีมากกว่า ๒๐๐ แห่ง โดยมีจุดมุ่งหมายให้ประชาชน
สามารถเข้าถึงการรักษาพยาบาลได้มากขึ้น ปัญหาทางปฏิบัติเกิดจากการออกแบบและการบริหารนโยบาย
ซึ่งไม่อาจดำาเนินการให้บรรลุตามเจตนารมณ์แห่งนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ ได้ เช่น ด้านบริหารนโยบาย
เจ็บป่วยฉุกเฉินฯ พบว่า รัฐบาลให้แนวทางว่า สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสามารถเบิกจ่ายค่ารักษา
พยาบาลได้ตามอัตราที่กำาหนด เมื่อมีค่ารักษาพยาบาลส่วนเกิน สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติจึงไม่อาจ
จ่ายได้
(๓) ปัญหาทางกฎหมาย คือ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการรักษากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
มี ๒ ฉบับ คือ พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑ และพระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑
ทั้งสองฉบับไม่มีข้อกำาหนดเกี่ยวกับอัตราค่ารักษาพยาบาล ที่ผ่านมา โรงพยาบาลเอกชนจะอ้างว่าไม่ได้ปฏิเสธ
การให้การรักษาพยาบาล ส่วนการเก็บค่ารักษาพยาบาลแพง ปัจจุบันประเทศไทยไม่มีนโยบายกำากับค่าบริการ
ของโรงพยาบาลเอกชน สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขทำาอยู่ คือ การกำาหนดอัตรา (Range) ค่ารักษาพยาบาลของ
บางกลุ่มโรค เช่น กลุ่มวินิจฉัยโรคร่วม เป็นต้น
(๔) สำาหรับแนวทางการแก้ปัญหา คือ
(๔.๑) มาตรการช่วยเหลือประชาชน ได้แก่ ให้โรงพยาบาลเอกชนให้บริการรักษา
กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินโดยไม่เรียกเก็บค่ารักษาพยาบาลจากผู้ป่วย แต่เรียกเก็บจากสำานักงานหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติให้สำานักงบประมาณจัดสรรงบประมาณสนับสนุนมาตรการเยียวยา ให้กระทรวงการคลังศึกษากลไก
ลดหย่อนภาษีแก่โรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมให้บริการตามนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ ให้กระทรวงพาณิชย์กำาหนด
ให้ค่าบริการฉุกเฉินวิกฤตเป็นสินค้าควบคุม ให้สำานักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคจัดระบบติดตามการใช้