Page 39 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 39

37
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                  สิทธิของประชาชนที่เจ็บป่วยฉุกเฉิน

                                        (๔.๒) ระบบการจัดการ  ให้กระทรวงสาธารณสุขรับผิดชอบนโยบายและจัดระบบ
                  บริการเจ็บป่วยฉุกเฉิน ให้สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติดำาเนินการแก่โรงพยาบาลที่ปฏิเสธการให้บริการ

                  ด้วยเหตุแห่งความสามารถในการจ่ายเงิน แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารระบบการแพทย์ฉุกเฉินทำาหน้าที่พัฒนา
                  ระบบการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ ให้กระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง
                  สำานักงานประกันสังคม และสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นแกนกลางทำาแผนยุทธศาสตร์และ

                  แผนงบประมาณเพื่อพัฒนาการแพทย์ฉุกเฉินในโรงพยาบาล
                                        (๔.๓) กองทุน ให้กรมบัญชีกลาง สำานักงานประกันสังคม สำานักงานหลักประกันสุขภาพ
                  แห่งชาติรับผิดชอบเบิกจ่ายโดยสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นแกนกลาง และให้สำานักงานหลักประกัน

                  สุขภาพแห่งชาติแยกเงินค่าใช้จ่ายกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินเป็นหนึ่งหมวด

                             ๓.๒.๓  ผู้เสียหายและผู้ได้รับผลกระทบ

                                    (๑) ภรรยาประสบอุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชน ส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่ง
                  ซึ่งแจ้งว่าต้องผ่าตัดด่วน  ญาติแจ้งขอใช้สิทธิรักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินแต่ถูกโรงพยาบาลปฏิเสธ
                  เมื่อญาติขอย้ายผู้ป่วยไปรักษายังโรงพยาบาลของรัฐ  โรงพยาบาลให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลก่อน เห็นว่าควรระงับ

                  การใช้นโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ นี้ไว้ก่อน  เพราะหากใช้ต่อไปน่าจะมีผู้เสียหายจากการรับภาระค่ารักษาพยาบาล
                  ที่มีราคาสูงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจากการสัมภาษณ์ของเลขาธิการสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติซึ่งมี

                  ประเด็นว่า  สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติยินดีให้ความช่วยเหลือแก่ผู้ป่วยหรือญาติรายใหม่ ไม่รวม
                  รายเดิมอาจทำาให้การช่วยเหลือไม่ครอบคลุมได้

                                    (๒) ขณะนี้มีผู้เสียหาย ญาติของผู้ป่วยบางรายถูกฟ้องคดีในศาล จึงประสงค์ให้สำานักงาน
                  หลักประกันสุขภาพแห่งชาติเข้ามาในฐานะเป็นคู่ความด้วย เนื่องจากนโยบายเจ็บป่วยฉุกเฉินฯ เป็นนโยบาย

                  ที่รัฐบาลมอบหมายให้สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติพิจารณาดำาเนินการ
                                    (๓) ผู้ป่วยมีอาการช็อค หมดสติ จึงพาส่งโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้สุดและ

                  ไม่สามารถส่งโรงพยาบาลของรัฐได้ทันเนื่องจากสภาพจราจรซึ่งหนาแน่น  ต่อมาวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๖ ได้ขอย้าย
                  ผู้ป่วยไปโรงพยาบาลของรัฐ แต่โรงพยาบาลเอกชนขอให้ชำาระค่ารักษาพยาบาลก่อน และกว่าจะย้ายไปโรงพยาบาล
                  ของรัฐได้ก็เป็นวันที่ ๑๘ เมษายน ๒๕๕๖ ขณะนี้ได้รับหมายศาลฟ้องเรียกค่ารักษาพยาบาล

                                    (๔) อีกกรณี ผู้ป่วยเดินทางมากรุงเทพฯ แล้วมีอาการเป็นลมล้มลง ลิ้นจุกปาก ถูกนำาส่ง
                  โรงพยาบาลเอกชน  โรงพยาบาลได้ผ่าตัดทำาบัลลูนหัวใจและแจ้งว่าผู้ป่วยยังไม่พ้นขีดอันตรายไม่อาจย้าย

                  โรงพยาบาลได้  ต่อมาขอย้ายโรงพยาบาลได้  โรงพยาบาลเอกชนขอให้จ่ายค่ารักษาพยาบาลอย่างน้อย ๗๕% ซึ่งได้
                  จ่ายไปจำานวนหนึ่ง ส่วนที่เหลือได้ลงลายมือชื่อรับสภาพหนี้ไว้

                             ๓.๒.๔  ผู้แทนจากกรมบัญชีกลาง

                                    (๑) หนังสือกรมบัญชีกลาง ที่ กค ๐๔๒๒.๒/ว ๙๕ ลงวันที่ ๒๕ เมษายน ๒๕๕๗ เรื่อง
                  หลักเกณฑ์การเบิกจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินในสถานพยาบาลของเอกชน อนุวัติตาม

                  พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. ๒๕๕๓  แก้ไขเพิ่มเติม ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้มี
                  แนวทางปฏิบัติในการเบิกเงินค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซึ่งกำาหนดอัตราฐานค่ารักษาพยาบาลประเภท
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44