Page 45 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 45
43
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
ส่วนตำาบล พ.ศ. ๒๕๓๗ ได้ออกระเบียบไว้ และแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพิ่มสิทธิให้ข้าราชการและ
พนักงานส่วนท้องถิ่นได้สิทธิรับบริการเจ็บป่วยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลรัฐและเอกชนนอกระบบของตน โดย
ไม่ต้องสำารองค่าใช้จ่ายล่วงหน้าตามนโยบายรัฐบาล เช่นเดียวกับผู้มีสิทธิหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ประกันสังคม
และสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ
(๑.๒.๒) เห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทยปรับปรุงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศกระทรวง
มหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการเบิกจ่ายเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น
ซึ่งปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศไว้ เพื่อให้เป็นไปตามข้อ ๕ แห่งระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วย
เงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลของพนักงานส่วนท้องถิ่น พ.ศ. ๒๕๔๑ ให้รองรับการจ่ายเงิน
ค่ารักษาพยาบาลกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินตามนโยบายรัฐบาล และแจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.)
ใช้หน่วยงานกลางในการจัดการธุรกรรมการเบิกจ่ายค่ารักษาและระบบข้อมูลต่างๆ (Clearing House)
โดยให้สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติสำารองจ่ายเงินค่าบริการให้สถานพยาบาลไปก่อน และให้ อปท.
จ่ายเงินคืนให้แก่สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามอัตราที่ตกลงกัน ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่
ได้รับแจ้งรวมทั้งจัดส่งฐานข้อมูลของบุคคลในสังกัดที่ได้สิทธิรักษาพยาบาลให้แก่สำานักงานหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติเพื่อจัดทำาฐานข้อมูลผู้มีสิทธิและให้มีการปรับปรุงต่อเนื่อง
(๒) ให้สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทย สำานักงบประมาณ
และสำานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เกี่ยวกับการให้ อปท. จ่ายเงินคืนให้แก่
สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติตามอัตราที่ตกลงกัน ภายใน ๓๐ วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้ง และการจัดส่ง
ฐานข้อมูลของบุคคลในสังกัดที่ได้รับสิทธิรักษาพยาบาล เพื่อจัดทำาฐานข้อมูลผู้มีสิทธิและให้มีการปรับปรุง
ต่อเนื่อง ควรมีการหารือร่วมกันระหว่างสำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย และอปท.
ก่อนที่จะได้มีการดำาเนินการ เนื่องจากอาจมีผลกระทบทั้งด้านงบประมาณและขั้นตอนการปฏิบัติได้ นอกจากนี้
ควรเร่งพัฒนากลไกสร้างแรงจูงใจในการเข้าร่วมโครงการของโรงพยาบาลเอกชน อาทิ มาตรการสร้างความเชื่อมั่น
ว่าสถานประกอบการภาคเอกชนจะได้รับเงินชดเชยในอัตราที่เหมาะสม กับโครงสร้างต้นทุนของการประกอบการ
และการให้สิทธิในการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคลแก่สถานประกอบการที่เข้าร่วมในโครงการ ซึ่งเป็นการแสดง
ความรับผิดชอบต่อสังคมในรูปแบบหนึ่ง เป็นต้น เพื่อสร้างแรงจูงใจให้โรงพยาบาลเอกชนให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉิน
โดยที่ผู้ป่วยไม่ต้องสำารองค่าใช้จ่ายล่วงหน้าอย่างแท้จริง และไม่เป็นภาระแก่โรงพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ
ไปพิจารณาดำาเนินการต่อไป
(๓) ให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับกระทรวงสาธารณสุข เพื่อชี้แจงและทำาความเข้าใจแก่
ประชาชนเกี่ยวกับการเข้ารับบริการกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน
๓.๔ ความเห็นของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑๗/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๒ พฤษภาคม
๒๕๕๖ มีมติเห็นชอบเกี่ยวกับสิทธิในการรับบริการสาธารณสุขโดยมีข้อเสนอแนะนโยบายฯ ประการหนึ่งว่า
รัฐบาลควรทบทวนแนวคิดวิธีจัดบริการและระบบบริการสาธารณสุขบนฐานหลักความเสมอภาค โดยให้ประเภท
และมาตรฐานของบริการสาธารณสุขตามระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเป็นบริการขั้นพื้นฐานและที่จำาเป็น