Page 47 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 47

45
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                  เยียวยาแก่ผู้ป่วย ซึ่งอยู่่ในสภาพอันตรายและจำาเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉิน เพื่อให้ผู้ป่วยพ้นจาก

                  อันตรายตามมาตรฐานวิชาชีพและตามประเภทของสถานพยาบาลนั้นๆ

                             เมื่อให้้การช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยตามวรรคหนึ่งแล้ว ถ้ามีความจำาเป็นต้องส่งต่อหรือผู้ป่วย
                  มีความประสงค์จะไปรับการรักษาพยาบาลที่สถานพยาบาลอื่น  ผู้้รับอนุญาตและผู้ดำาเนินการต้องจัดการให้้มี
                  การจัดส่งต่อไปยังสถานพยาบาลอื่นตามความเหมาะสม


                        ๔.๔  พระราชบัญญัติการแพทย์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๕๑

                             ม�ตร� ๒๘  เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของผู้ป่วยฉุกเฉิน  ให้หน่วยปฏิบัติการสถานพยาบาล
                  และผู้ปฏิบัติการ ดำาเนินการปฏิบัติการฉุกเฉิน ตามหลักการ ดังต่อไปนี้

                             (๑) ตรวจคัดแยกระดับความฉุกเฉินและจัดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินตามลำาดับ
                  ความเร่งด่วนทางการแพทย์ฉุกเฉิน

                             (๒) ผู้ป่วยฉุกเฉินต้องได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินจนเต็มขีดความสามารถของหน่วยปฏิบัติการหรือ
                  สถานพยาบาลนั้นก่อนการส่งต่อ เว้นแต่มีแพทย์ให้้การรับรองว่า การส่งต่อผู้ป่วยฉุกเฉินจะเป็นประโยชน์ต่อ

                  การป้องกันการเสียชีวิตหรือการรุนแรงขึ้นของการเจ็บป่วยของผู้ป่วยฉุกเฉินนั้น
                             (๓) การปฏิบัติการฉุกเฉินต่อผู้ป่วยฉุกเฉินต้องเป็นไปตามความจำาเป็นและข้อบ่งชี้ทางการแพทย์์
                  ฉุกเฉิน  โดยมิให้นำาสิทธิการประกัน การขึ้นทะเบียนสถานพยาบาล หรือความสามารถในการรับผิดชอบค่าใช้จ่าย

                  ของผู้ป่วยฉุกเฉินหรือเงื่อนไขใดๆ มาเป็นเหตุปฏิเสธผู้ป่วยฉุกเฉินให้ไม่ได้รับการปฏิบัติการฉุกเฉินอย่างทันท่วงที
                  หน่วยปฏิบัติการหรือสถานพยาบาลต้องควบคุมและดูแลผู้้ปฏิบัติการให้ดำาเนินการปฏิบัติการฉุกเฉินเป็นไปตาม
                  หลักการตามวรรคหนึ่ง

                             ม�ตร� ๓๑  ในกรณีที่ปรากฏว่า ผู้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ หรือสถานพยาบาลใดไม่ปฏิบัติ
                  ตามหลักเกณฑ์์ เงื่อนไข และมาตรฐานการปฏิบัติการฉุกเฉิน ให้ กพฉ. ดำาเนินการสอบสวนเพื่อพิจารณากำาหนด

                  มาตรการตามมาตรา ๓๒
                             ในการสอบสวนตามวรรคหนึ่ง ให้ กพฉ. มีอำานาจเรียกบุคคลใดๆ มาให้ถ้อยคำาหรือแจ้งให้้บุคคลใดๆ

                  ส่งเอกสารหรือวัตถุที่จำาเป็นแก่การดำาเนินการตามอำานาจและหน้าที่
                             ม�ตร� ๓๒ ในกรณีที่ผลการสอบสวนตามมาตรา ๓๑ ปรากฏว่า ผู้ปฏิบัติการหน่วยปฏิบัติการ หรือ

                  สถานพยาบาลใดไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์์ เงื่อนไข และมาตรฐานที่กำาหนดและการกระทำาดังกล่าวเป็นความผิดตาม
                  กฎหมาย กฎ ข้อบังคับ หรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง ให้ กพฉ. ดำาเนินการอย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้

                             (๑) ตักเตือนเป็นหนังสือให้ผู้้ปฏิบัติการ หน่วยปฏิบัติการ หรือสถานพยาบาลนั้นปฏิบัติให้ถูกต้อง
                             (๒) แจ้งเรื่องไปยังผู้มีอำานาจตามกฎหมายที่มีอำานาจควบคุมการดำาเนินการของหน่วยปฏิบัติการ
                  เพื่อพิจารณาดำาเนินการตามอำานาจหน้าที่

                             (๓) แจ้งเรื่องไปยังผู้มีอำานาจตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาดำาเนินการทางวินัยแก่ผู้ดำาเนินการสถาน
                  พยาบาลของรัฐหรือหน่วยงานของรัฐ
                             (๔) แจ้งเรื่องไปยังผู้มีอำานาจตามกฎหมาย เพื่อพิจารณาดำาเนินการด้านจริยธรรมกับผู้ปฏิบัติการ

                  ซึ่งเป็นผู้้ประกอบวิชาชีพด้านการแพทย์และการสาธารณสุข
   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51   52