Page 36 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 36

34   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


               ที่เหลือต้องเซ็นสัญญารับสภาพหนี้  และกรณีสุดท้ายผู้เสียหายมีครรภ์ มีอาการเจ็บท้องรุนแรงไปรักษาที่

               โรงพยาบาลอกชนซึ่งตนมีสิทธิตามระบบประกันสังคม แต่ถูกปฏิเสธ ผู้เสียหายได้คลอดบุตรที่บ้านและปรากฏว่า
               บุตรเสียชีวิตในเวลาต่อมา


               ๒.  อำานาจหน้าที่

                    อาศัยอำานาจตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ มาตรา ๔ บัญญัติว่า

               “ภายใต้บังคับบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้    ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิเสรีภาพ และความเสมอภาค
               บรรดาที่ชนชาวไทยเคยได้รับการคุ้มครองตามประเพณีการปกครองประเทศไทยในระบอบประชาธิปไตยอันมี

               พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และตามพันธกรณีระหว่างประเทศที่ประเทศไทยมีอยู่แล้ว ย่อมได้รับการคุ้มครอง
               ตามรัฐธรรมนูญนี้”  และพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ (๓)
               บัญญัติว่า “คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอำานาจหน้าที่เสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุง

               กฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับ ต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน”  ดังนั้น
               คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมอบให้คณะอนุกรรมการด้านเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุง
               กฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพิจารณาปัญหาดังกล่าวเพื่อมีข้อเสนอแนะนโยบายและ

               ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายต่อรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป


               ๓.  ข้อมูลประกอบการพิจารณา


                     ๓.๑  สภาพปัญหาเนื่องจากนโยบาย เจ็บป่วยฉุกเฉิน รักษาทุกที่ ทั่วถึงทุกคน

                           สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้กำาหนดแนวทางการเข้ารับการรักษากรณีเจ็บป่วยฉุกเฉิน

               (Emergency Claim  Online : EMCO)  โดยให้แนวทางการวินิจฉัย ประกอบด้วยมีข้อบ่งชี้ว่าเป็นโรคหรืออาการ
               ของโรคที่มีลักษณะรุนแรงอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตหรือต่อผู้อื่น มีลักษณะรุนแรงต้องรักษาเร่งด่วนและโรคที่ต้อง
               ผ่าตัดด่วน หากปล่อยไว้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต และให้แนวทางใช้สิทธิว่าให้เข้ารับการรักษาจากหน่วยบริการของ

               รัฐหรือเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ รวมทั้งกำาหนดแนวทางการใช้สิทธิกรณีประสบอุบัติเหตุทั่วไป  ซึ่งให้เข้ารับบริการ
               จากหน่วยบริการของรัฐหรือเอกชนที่เข้าร่วมโครงการ  และกรณีประสบภัยจากรถให้เข้ารับบริการจากหน่วย
               บริการของรัฐหรือเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหรือไม่เข้าร่วมโครงการก็ได้ รวมทั้งได้กำาหนดแนวทางการส่งต่อผู้ป่วย
                                      ๑
               ไปยังโรงพยาบาลที่ผู้นั้นมีสิทธิ
                           อย่างไรก็ตาม พบว่าทางปฏิบัติการใช้นโยบายดังกล่าวมีปัญหา คือ

                           ๓.๑.๑  ปัญหาคำานิยาม “เจ็บป่วยฉุกเฉิน” ซึ่งมีความเข้าใจและการตีความอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน

               แตกต่างกันในมุมมองของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์  ทั้งนี้ ระดับของอาการเจ็บป่วยฉุกเฉิน แบ่งได้
               ๓ ระดับตามความเร่งด่วนหรือวิกฤต โดยสามารถแทนด้วยสี ดังนี้ สีเขียว (ผู้ป่วยฉุกเฉินไม่เร่งด่วน) สีเหลือง (ผู้ป่วย






               ๑  สำานักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ <http://www.nhso.go.th/FrontEnd/page-forpeople_useuc.aspx>,  เข้าค้นเมื่อวันที่ ๒๐
                   มกราคม ๒๕๕๘
   31   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41