Page 33 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 33

31
                                              ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                     ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๒  ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘


                             ๕.๒.๔  ประเด็นที่ ๔ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นควรมีหน้าที่อำานวยความสะดวกและ

                                    จัดสถานที่ในการชุมนุมสาธารณะ

                                    รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ เป็นต้นมา ได้เปิดมิติการกระจาย
                  อำานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในอันที่จะจัดการบริการสาธารณะ

                                    การจัดพื้นที่ที่เหมาะสมให้เป็นพื้นที่สำาหรับการชุมนุมสาธารณะ อาจช่วยให้ประชาชน
                  ที่ประสงค์จะรวมตัวกันเพื่อแสดงออกให้รัฐบาลท้องถิ่นหรือรัฐบาลกลางทราบเกี่ยวกับความประสงค์ที่ต้องการ

                  สนับสนุน เรียกร้อง หรือคัดค้านกฎหมาย นโยบาย การกระทำา การดำาเนินในโครงการหรือกิจกรรม หรือท่าที
                  อย่างหนึ่งอย่างใด และช่วยดูแลอำานวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุมได้มากขึ้น  ขณะเดียวกัน หากผู้ชุมนุมสามารถ
                  สื่อสารความประสงค์จากพื้นที่ได้เช่นเดียวกับการชุมนุมในเมือง ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องที่เกี่ยวเนื่องกับ

                  การชุมนุมได้ เช่น การใช้เส้นทางจราจร เป็นต้น
                                    คว�มเห็นและข้อเสนอ

                                    เห็นควรกำาหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเข้ามามีบทบาทในการจัดการเกี่ยวกับ
                  สถานที่ที่ใช้ในการชุมนุม เป็นการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นส่งเสริมและเปิดโอกาสให้กลุ่มประชาชน
                  กลุ่มต่างๆ จัดการชุมนุมได้โดยสะดวกมากยิ่งขึ้น  โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีหน้าที่อำานวยความสะดวก

                  ดูแลรักษาความปลอดภัย และจัดหาสถานที่ที่เหมาะสมให้ประชาชนร่วมชุมนุมสาธารณะ เช่น สามารถเดินทาง
                  มายังสถานที่ดังกล่าวได้โดยสะดวก และอำานวยความสะดวกในการบริการสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน เช่น ห้องสุขา

                  เป็นต้น
                                    ต่อมา เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘  มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตรา

                  พระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ขึ้น  โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำาหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ
                  ในราชกิจจานุเบกษา เป็นต้นไป  เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควร

                  กำาหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจนและโดยสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
                  สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี  ทั้งนี้ เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วยความสงบ
                  เรียบร้อยไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรม

                  อันดีตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ และไม่กระทบ
                  กระเทือนสิทธิและเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น  ซึ่งจากการพิจารณาพบว่ามีหลายประเด็นที่
                  เป็นไปตามข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายที่คณะกรรมการฯ เสนอ เช่น การกำาหนด

                  พื้นที่ห้ามชุมนุมโดยบัญญัติแยกรัฐสภา ทำาเนียบรัฐบาล และศาล ออกจากสถานที่ประทับ ไม่ได้กำาหนดให้ผู้จัดการ
                  ชุมนุมต้องอยู่ด้วยตลอดระยะเวลาการชุมนุม การแจ้งการชุมนุมสามารถแจ้งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์  ขยาย
                  เวลาการปราศรัยจาก ๒๒.๐๐ น. เป็น ๒๔.๐๐ น. และเจ้าหน้าที่ของรัฐต้องผ่านการฝึกอบรม เป็นต้น

                                    อย่างไรก็ตาม มีหลายประเด็นที่บทบัญญัติในพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่สอดคล้องกับ

                  ข้อเสนอแนะฯ ของคณะกรรมการฯ หรือไม่สอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและ
                  สิทธิทางการเมือง หรือไม่สอดคล้องเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัตินี้เอง เช่น กรณีไม่แจ้งการชุมนุม เจ้าพนักงาน
                  ออกคำาสั่งให้เลิกการชุมนุมได้ การให้ดุลพินิจแก่รัฐมนตรีในประกาศสถานที่ห้ามการชุมนุมฯ กีดขวางทางเข้าออก

                  หรือรบกวนการปฏิบัติงานเพิ่มเติม  เจ้าพนักงานมีอำานาจจับ ค้น ยึด อายัด รื้อถอนทรัพย์สิน โดยไม่ต้องผ่าน
   28   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38