Page 105 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 105
103
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
๒.๕.๖) ตัดขั้นตอนการอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีออก โดยให้มีสิทธินำาคดีไปสู่
ศาลแทน (ร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. .... มาตรา ๗๒ และมาตรา ๑๐๔) เห็นว่า การอุทธรณ์
อาจต้องพิจารณาเจตนารมณ์ในการตัดการอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรีออก เนื่องจากเห็นว่า การอุทธรณ์ต่อรัฐมนตรี
ดีกว่าการนำาคดีไปสู่ศาล ในแง่ของระยะเวลาในการพิจารณา เนื่องจากกระบวนการพิจารณาในศาลมี
ระยะเวลานาน แต่ถึงอย่างไรการกำาหนดให้นำาคดีไปสู่ศาลก็ไม่ขัดกับอนุสัญญา
๒.๕.๗) กรณีให้อธิบดียื่นคำาร้องต่อศาลแรงงานเพื่อสั่งเลิกสมาคมนายจ้าง
เมื่อปรากฏว่า (๑) สมาคมนายจ้างดำาเนินการขัดต่อวัตถุประสงค์ขัดต่อกฎหมาย หรืออาจเป็นภัยต่อความมั่นคง
ของประเทศ หรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน (๒) สมาคมนายจ้างไม่ดำาเนินกิจการ
ติดต่อกันเป็นเวลาเกินสองปี (ร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. .... มาตรา ๘๐ และมาตรา ๘๑ และ
ร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. .... มาตรา ๖๘ และมาตรา ๖๙) เห็นว่า ไม่ขัดกับอนุสัญญา
เนื่องจากเป็นกรณีที่สมาคมนายจ้างกระทำาผิด
๒.๕.๘) กรณีร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. .... กำาหนด
ให้เฉพาะสหพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจไม่รวมสหภาพแรงงานเข้าเป็นสมาชิกของสภาองค์การลูกจ้างตามกฎหมาย
ว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ได้ ไม่มีบทบัญญัติให้สหภาพแรงงานหรือสหพันธ์แรงงานตามร่างพระราชบัญญัติแรงงาน
รัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. .... จัดตั้งสภาองค์การลูกจ้างได้ ไม่ได้กำาหนดให้สหภาพแรงงานเอกชนกับสหภาพแรงงาน
รัฐวิสาหกิจรวมตัวเป็นสหพันธ์แรงงานและสภาองค์การลูกจ้างได้ เห็นว่า ไม่ควรจะแบ่งแยกการรวมตัวกันระหว่าง
ราชการ รัฐวิสาหกิจ เอกชน หากมีวัตถุประสงค์หรือทำากิจกรรมอย่างเดียวกันควรที่จะรวมตัวกันได้ การจำากัด
การรวมตัวจึงเป็นการขัดต่ออนุสัญญา
๒.๕.๙) สหพันธ์และสมาพันธ์ขององค์กรนายจ้างและของคนทำางานตาม
ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับ สามารถเข้าเป็นภาคีองค์การระหว่างประเทศของนายจ้างและของคนทำางานได้
๒.๕.๑๐) ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับได้กำาหนดไว้ในกรณีที่รัฐมนตรีเห็นว่า
การปิดงานหรือการนัดหยุดงานนั้น อาจทำาให้เกิดความเสียหายแก่เศรษฐกิจของประเทศ หรืออาจก่อให้เกิด
ความเดือดร้อนแก่ประชาชน หรืออาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ หรืออาจขัดต่อความสงบเรียบร้อยของ
ประชาชน ให้รัฐมนตรีมีอำานาจสั่งให้คณะกรรมการดำาเนินการชี้ขาดข้อพิพาทแรงงาน คำาชี้ขาดของคณะกรรมการ
ให้เป็นที่สุด ฝ่ายที่ปิดงานและฝ่ายที่นัดหยุดงานต้องปฏิบัติตาม เห็นว่า ต้องพิจารณาเหตุที่ลูกจ้างต้องนัดหยุดงาน
เป็นเพราะต้องการสร้างอำานาจในการต่อรอง ซึ่งการนัดหยุดงานที่จะทำาให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจก็เฉพาะ
ความเสียหายต่อกิจการของนายจ้างเท่านั้น ซึ่งการบัญญัติกฎหมายเช่นนี้ขัดต่อสิทธิในการเจรจาต่อรอง
๒.๕.๑๑) กรณีร่างพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ....
มาตรา ๑๙ ที่กำาหนดให้การนัดหยุดงานหากเป็นงานที่เป็นบริการสาธารณะตามที่คณะกรรมการประกาศกำาหนด
่
ในราชกิจจานุเบกษา ฝ่ายที่นัดหยุดงานต้องจัดให้มีบริการขั้นตำาเท่าที่จำาเป็น เพื่อบรรเทาความเสียหายหรือ
ลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการนัดหยุดงาน เป็นการกำาหนดเงื่อนไขที่สอดคล้องกับอนุสัญญา
๒.๕.๑๒) กรณีร่างพระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ พ.ศ. .... มาตรา ๕๒ มี
บทบัญญัติที่ห้ามนายจ้างเลิกจ้าง ลดค่าจ้าง ลงโทษ ขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการลูกจ้าง หรือกระทำา
การใดๆ อันอาจเป็นผลให้กรรมการลูกจ้างไม่สามารถทำางานอยู่ต่อไปได้ เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลแรงงาน
เห็นควรมีบทบัญญัติเช่นนี้ต่อกรณีของกรรมการสหภาพแรงงานด้วย