Page 46 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 46

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

               ใหใชประมวลกฎหมายที่ดิน 2497 ในสวนที่เกี่ยวกับการจํากัดการถือครองที่ดิน (มาตรา 34 ถึงมาตรา 49

               และมาตรา 94 อนุมาตรา 5 ของประมวลกฎหมายที่ดิน 2497) ไดถูกยกเลิกโดยประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 49
               ลงวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2502 โดยจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต เพราะการจํากัดการถือครองที่ดินซึ่งเปนปจจัย

               การผลิตที่สําคัญในระบบทุนนิยมขัดแยงกับหลักการเศรษฐกิจเสรีตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของธนาคารโลก
               เพื่อพัฒนาประเทศไทยในชวงเวลานั้นซึ่งทําใหประเทศสหรัฐอเมริกาไดเขามามีบทบาทอยางสูงโดยการอยูเบื้องหลัง

               ในการผลักดันนโยบายสําคัญ ๆ ของรัฐบาลประเทศไทยตั้งแตนั้นเปนตนมา
                        สวน พ.ร.บ. ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม พ.ศ. 2518 เปนผลของการปฏิรูปที่ดินซึ่งเกิดขึ้นจากการ

               เรียกรองของสหพันธชาวนาชาวไรที่มาชุมนุมเรียกรองที่ดินทํากินตอรัฐบาลเฉพาะกาลของนายสัญญา ธรรมศักดิ์
               ในชวงสถานการณทางการเมืองที่เอื้ออํานวยตอการเคลื่อนไหวของพลังภาคประชาชนในยุคที่ประชาธิปไตย

               กําลังเบงบานในป พ.ศ. 2517 จนสามารถประกาศใชเปนกฎหมายไดอยางเปนทางการในสมัยรัฐบาล ม.ร.ว. คึกฤทธิ์
               ปราโมช และไดใชมาจนถึงทุกวันนี้ กฎหมายฉบับนี้ไมถูกตอตานหรือยกเลิกเหมือนกฎหมายปฏิรูปที่ดิน

               ฉบับกอนหนานี้ เพราะเนื้อหาสาระเปนการจัดสรรที่ดินรกรางวางเปลาหรือที่ดินของรัฐ (มาตรา 26 อนุ 3)
               เพื่อใหเกษตรกรทํากินในจํานวนเนื้อที่ดินที่ไมสงผลกระทบกระเทือนตอการถือครองที่ดินของกลุมทุน

               แตเปนเพียงการผอนคลายความตึงเครียดจากการถูกกดขี่ขูดรีดของระบบทุนนิยมซึ่งเทากับเปนการปรับตัว
               ของระบบทุนนิยมเพื่อใหสามารถขูดรีดตอเนื่องตอไปไดเทานั้น  นอกจากนั้น  ที่ดิน  ส.ป.ก.  สวนใหญ

               ยังถูกผูมีอิทธิพลทองถิ่นนักการเมืองรวมทั้งนายทุนสวมสิทธิในการเปนเกษตรกรเปนจํานวนมากอีกดวย
                        เชนเดียวกับงานวิจัยเรื่องกระบวนการกําหนดนโยบายที่ดินในประเทศไทยระหวาง พ.ศ. 2475 - 2500

               โดย ศรัญู เทพสงเคราะห ที่ชี้ใหเห็นถึงปญหาความขัดแยงระหวางเอกชนกับประชาชนในการถือครองกรรมสิทธิ์
               ที่ดินที่สะทอนถึงความไมเปนธรรมจากกฎหมายที่เกี่ยวของกับการถือครองที่ดิน จนทําใหเกิดมีการแตงตั้ง

               คณะกรรมการและออกกฎหมายอีกหลายฉบับขึ้นมาเพื่อแกไขปญหาดังกลาว
                        กรณีพิพาทเกี่ยวกับที่ดินในทองที่อําเภอบางบอและบางพลีจังหวัดสมุทรปราการถือเปนกรณีพิพาท

               เกี่ยวกับที่ดินที่สําคัญที่สุดในชวงทศวรรษ 2490 ซึ่งรัฐบาลใหความสนใจเปนอยางยิ่งและมีผลตอการกําหนด
               นโยบายจัดสรรที่ดินของรัฐบาลในชวงครึ่งหลังทศวรรษ 2490 โดยกรณีพิพาทนี้เปนเรื่องสืบเนื่องมาจากกรณีพิพาท

               ระหวางหางหุนสวนสยามกสิกรของนายมังกร สามเสน กับราษฎรในชวงกอนการเปลี่ยนแปลงการปกครอง
               ถึงแมรัฐจะพยายามแกปญหาดังกลาวดวยการตราพระราชกฤษฎีกากําหนดการแบงที่ดินในอําเภอบางบอ บางพลี

               จังหวัดสมุทรปราการและบางปะกงจังหวัดฉะเชิงเทราใหแกราษฎร พ.ศ. 2473 โดยตั้งขาหลวงพิเศษออกไป
               จัดแบงที่ดินที่ดังกลาวใหแกราษฎรผูสามารถทําการเพาะปลูกไดเอง แตในระหวางที่ขาหลวงพิเศษจัดแบงที่ดิน

               ดําเนินการในทองที่ที่กําหนดนั้น กรณีพิพาทที่ดินระหวางราษฎรกับหางหุนสวนสยามกสิกรก็ยังคงดําเนินอยู
               โดยในป พ.ศ. 2480 นายมังกร สามเสน ผูจัดการหางหุนสวนสยามกสิกรไดยื่นคํารองขอรังวัดเพื่อรับโฉนดที่ดิน

               การขอรังวัดครั้งนั้นมีราษฎรหลายรายคัดคานและเรื่องก็คางเรื่อยมา เพราะทั้งฝายผูขอและผูคัดคานไมเอาใจใส
               ทอดทิ้งเรื่องไว และเมื่อพิจารณาการจัดแบงที่ดินของขาหลวงพิเศษในที่ดินดังกลาวกลับปรากฏวาขาหลวงพิเศษ

               ยังไมมีการดําเนินการจัดแบงที่ดิน จนกระทั่งมีการออกกฎหมายฉบับสุดทายที่ยกเลิกขาหลวงพิเศษจัดแบงที่ดิน




                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  25
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   41   42   43   44   45   46   47   48   49   50   51