Page 336 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 336

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

               6.4 วิเคราะหการละเมิดสิทธิ

                        ที่ราชพัสดุเปนที่ดินของรัฐประเภทหนึ่งที่กฎหมายกําหนดไว ตามพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518

               ซึ่งเดิมที่ราชพัสดุไมมีคํานิยามและกฎหมายใดที่กําหนดไวชัดเจน มีเพียงหนังสือพระบรมราชโองการรัชกาลที่ 6

               ที่ 65/507 ลงวันที่เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2464 ความวา “หนังสือกระทรวงพระคลังมหาสมบัติ ที่ 205/23400
               ลงวันที่ 14 มีนาคม 2464 วา เห็นควรสมควรรวบรวมบรรดาที่ดินของหลวงในกระทรวงตาง ๆ มาขึ้นทะเบียน

               ราชพัสดุไวทางกระทรวงพระคลังฯ เสียทางเดียวเพื่อปกครองใหเปนหลักฐานสืบไปนั้น หมอมฉันเห็นชอบดวยแลว

               ใหทานจัดการกับเจากระทรวงตาง ๆ ในเรื่องตอไปเถิด” จึงรวบรวมที่ดินขึ้นทะเบียนไวที่กระทรวงพระคลัง

               มหาสมบัติ แตเนื่องพระบรมราชโองการไมมีรายละเอียดที่ชัดเจน ทําใหเกิดปญหาการบังคับใช กลาวคือ
               หนวยงานราชการโตแยงและไมปฏิบัติ ทําใหการรวบรวมขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุทําไดเพียงบางสวน

                        ตอมา หลังการเปลี่ยนแปลงระบบการปกครอง เมื่อป พ.ศ. 2475 รัฐมนตรีวาการกระทรวงการคลัง

               ประกาศใช “ระเบียบกระทรวงการคลัง ที่ 8782/2485 เรื่อง การปกครองและจัดประโยชนที่ดินสิ่งปลูกสราง

               ราชพัสดุ พุทธศักราช 2485 กําหนดใหกระทรวง ทบวง กรมตาง ๆ นําที่ดินของหนวยงานตาง ๆ ที่ใชประโยชน
               มาขึ้นทะเบียนตอกระทรวงการคลัง ซึ่งการประกาศใชระเบียบดังกลาว กลายเปนขอโตแยงของหนวยงานตาง ๆ

               โดยอางวา ระเบียบดังกลาวมิใชกฎหมายเปนเพียงคําสั่งภายในที่ใชบังคับเฉพาะในกระทรวงการคลังเทานั้น

               จะใชบังคับแกกระทรวงอื่น ๆ มิได จากสาเหตุดังกลาวเปนสาเหตุสําคัญที่ทําใหเกิดปญหาการบริหารจัดการ

               ที่ราชพัสดุตลอดมา
                        จากปญหาการโตแยงในเรื่องอํานาจเกี่ยวกับที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ กระทรวงการคลัง จึงทําให

               กรมธนารักษมอบหมายใหกองรักษาที่หลวงดําเนินการยกรางพระราชบัญญัติเกี่ยวกับที่ราชพัสดุ เมื่อป 2511 - 2512

               แตเนื่องจากในระยะตอมาไดมีมติสภาบริหารคณะปฏิวัติ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ.  2514 สภาบริหารคณะปฏิวัติ

               มีมติที่ประชุมวา กระทรวงการคลังไมมีอํานาจหนาที่ในที่ราชพัสดุในสวนที่เปนสาธารณสมบัติของแผนดิน
               นอกจากจะเปนที่ของสวนราชการสังกัดกระทรวงการคลังเทานั้น และในระยะตอมามีความพยายามที่จะขอ

               แบงสวนราชการใหม โดยประสงคจะขอโอนงานของกองรักษาที่หลวงไปอยูในสังกัดของกรมอื่น ทําใหกรมธนารักษ

               ตองเรงดําเนินการยกรางพระราชบัญญัติในชื่อ “รางพระราชบัญญัติจัดระเบียบที่ราชพัสดุ พ.ศ. ....” เสนอ

               คณะรัฐมนตรี และสงใหสภานิติบัญญัติแหงชาติพิจารณา ประกาศบังคับใชเปนพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518
                        ภายหลังการประกาศใชพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 คณะกรรมการที่ราชพัสดุ อาศัย

               อํานาจตามความในมาตรา 6 และมาตรา 12 แหงพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518 เห็นควรที่จะกําหนด

               หลักเกณฑและวิธีการในการปกครองดูแล บํารุงรักษา ใชและจัดหาประโยชนเกี่ยวกับที่ราชพัสดุใหเปนการแนนอน

               และเหมาะสม จึงประกาศใชกฎกระทรวง (พ.ศ. 2519) ออกตามความในพระราชบัญญัติที่ไดพัสดุ พ.ศ. 2518
               โดยกําหนดวา ในทองที่จังหวัดใดที่ยังไมไดสํารวจรายการเพื่อขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุกลาง ใหกรมธนารักษ





                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  315
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   331   332   333   334   335   336   337   338   339   340   341