Page 335 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 335

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                         ประวัติความเปนมาของบานหนองไฮ ไดถูกประกาศจัดตั้งขึ้นตั้งแตป 2478 ชาวบานในพื้นที่บริเวณ

                ดังกลาวจํานวนมาก มีหลักฐาน ส.ค.1 ตั้งแตป 2498 ลักษณะภูมิประเทศเหมาะแกการทําเกษตรกรรม สอดคลอง

                กับเอกสารชี้แจงของ มทบ.24 ที่ยอมรับวา “...สนามฝกทางยุทธวิธีมีสภาพพื้นที่ทั่วไปเปนที่ราบเหมาะสม

                แกการเพาะปลูกทําการเกษตรเปนอยางยิ่ง...”
                         การตรวจสอบของคณะอนุกรรมการฯ พบวา ในพื้นที่มีรองรอยของการตั้งถิ่นฐานบานเรือน มายาวนาน

                โดยเฉพาะวัดบวรนิเวศธารามมีสภาพเกาแก และมีหลักฐานทางประวัติศาสตรที่สอดคลองกับคําใหการของผูรอง

                         การประชุมรวมระหวางอนุกรรมการฯ กับหนวยราชการที่เกี่ยวของ เพื่อแกไขปญหาในกรณีดังกลาว

                ทั้ง 3 ครั้ง ตัวแทนมณฑลทหารบกที่ 24 ยอมรับวา หนวยทหารไดเขามาจัดตั้งในจังหวัดอุดรธานีตั้งแตป 2463
                แตไมปรากฏหลักฐานการครอบครองใชประโยชนในพื้นที่พิพาท และนับตั้งแตไดมีการกันพื้นที่พิพาทไว

                เปนสนามฝกทางทหาร ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม พ.ศ. 2509 มณฑลทหารบกที่ 24

                ไมเคยใชประโยชนในพื้นที่บริเวณดังกลาว เนื่องจากมีชาวบานจํานวนมากครอบครองอาศัยอยูในพื้นที่พิพาท

                สอดรับกับ “ความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 256 - 257/2538 บันทึกเรื่อง สถานะทางกฎหมาย
                ของที่ดินที่สงวนหวงหามไวเพื่อใชประโยชนในราชการแตทางราชการยังไมไดเขาใชประโยชน เห็นวา ที่ดินในเขต

                ที่มีประกาศสงวนหรือหวงหามไวเพื่อประโยชนของทางราชการตามกฎหมาย จะมีสถานะเปนที่ราชพัสดุหรือไม

                ตองพิจารณาวาสวนราชการไดเขาใชประโยชนแลวหรือไม ถาเขาใชประโยชนแลวที่ดินดังกลาวก็เปนที่ราชพัสดุ

                แตถายังไมไดเขาใชประโยชนหรือใชประโยชนบางสวน สวนที่ยังไมไดใชก็ไมเปนที่ราชพัสดุ”
                         ตอมา เมื่อรัฐบาลในป 2546 มีนโยบายแปลงสินทรัพยเปนทุน ดวยการนําที่ดินที่อยูในความครอบครอง

                ของสวนราชการที่ไมไดใชประโยชน นํามาพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจ มณฑลทหารบกที่ 24  จึงขออนุมัติกองทัพบก

                ทําเรื่องสงที่ดินที่พิพาทคืนใหกับกรมธนารักษ กรมธนารักษจึงนําพื้นที่พิพาทดังกลาวมาจัดใหราษฎรเชา

                ทั้งที่กรมธนารักษดําเนินการตรวจสอบพื้นที่พบวา ราษฎรบางสวนมีหลักฐานการครอบครองในที่ดินที่พิพาท
                ตั้งแตป 2498

                         ดังนั้น จากขอเท็จจริงดังกลาวขางตน ตามที่มณฑลทหารบกที่ 24 แจงไมเคยไดใชประโยชนในที่พิพาท

                ดังกลาว จึงทําใหที่พิพาทดังกลาวไมใชที่ราชพัสดุ แตเปนที่สงวนหวงหามที่เปนสาธารณสมบัติของแผนดิน

                กรมธนารักษไมมีสิทธิในการจัดใหเชา การดําเนินการแกไขปญหาในที่ดินที่พิพาทโดยการจัดใหเชาของกรมธนารักษ
                จึงกอใหเกิดความไมเปนธรรมตอผูรอง และขัดตอเจตนารมณของการปฏิบัติราชการที่ดี ตามนัยพระราชกฤษฎีกา

                วาดวยหลักเกณฑและวิธีการบริหารจัดการบานเมืองที่ดี พ.ศ. 2546













         314     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   330   331   332   333   334   335   336   337   338   339   340