Page 341 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 341

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                ทะเลสาบและสวนอสังหาริมทรัพยของรัฐวิสาหกิจที่เปนนิติบุคคลและขององคการปกครองทองถิ่นไมถือวา

                เปนที่ราชพัสดุ” แตตามความเห็นของคณะกรรมการกฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 256 - 257/2538 บันทึกเรื่อง

                สถานะทางกฎหมายของที่ดินที่สงวนหวงหามไวเพื่อใชประโยชนในราชการแตทางราชการยังไมไดเขาใชประโยชน

                โดยเห็นวาในการที่จะพิจารณาวาที่ดินใดจะเปนที่ราชพัสดุหรือไม คณะกรรมการกฤษฎีกา เห็นวา ที่ดินในเขต
                ที่มีประกาศสงวนหรือหวงหามไวเพื่อประโยชนของทางราชการตามกฎหมาย จะมีสถานะเปนที่ราชพัสดุหรือไม

                ตองพิจารณาวาสวนราชการไดเขาใชประโยชนแลวหรือไม ถาเขาใชประโยชนแลวที่ดินดังกลาวก็เปนที่ราชพัสดุ

                แตถายังไมไดเขาใชประโยชนหรือใชประโยชนบางสวน สวนที่ยังไมไดใชก็ไมเปนที่ราชพัสดุแตยังคงมีสภาพ

                เปนที่รกรางวางเปลาที่มีการสงวนหรือหวงหามตอไป ดังนั้นควรกําหนดคํานิยามของคําวา “ที่ราชพัสดุ”
                ใหมีความชัดเจน ถูกตองตามเจตนารมณของพระราชบัญญัติที่ราชพัสดุ พ.ศ. 2518

                             1.2)   รัฐควรกําหนดใหผูแทนราษฎรผูสวนได สวนเสีย ผูแทนภาคประชาชน ผูแทนองคกร

                ปกครองสวนทองถิ่น มีสัดสวนในการเปนกรรมการที่ราชพัสดุ เพื่อเกิดการมีสวนรวมในการกําหนดนโยบาย

                หลักเกณฑและวิธีการการปกครองดูแล บํารุงรักษา ใชและจัดหาประโยชน เกี่ยวกับที่ราชพัสดุที่มีประสิทธิภาพ
                             1.3)   รัฐควรกําหนดใหหนวยงานราชการที่ขออนุญาตใชประโยชนในที่ราชพัสดุระบุวัตถุประสงค

                การใชประโยชนใหชัดเจน

                             1.4)   รัฐควรใหราษฎรผูมีสวนไดสวนเสีย ชุมชน องคกรปกครองสวนทองถิ่น มีสวนรวม

                ในการกําหนดคาเชา และระยะเวลาการเชาที่ราชพัสดุ
                             1.5)   รัฐควรกําหนดหลักเกณฑและวิธีการจัดหาประโยชนในที่ราชพัสดุ เพื่อนําไปสูการแกไข

                ปญหาที่ดินและลดความเหลื่ยมลํ้าในสังคม ดังนี้

                             (1)    กําหนดขนาดพื้นที่การเชาตามลักษณะการใชประโยชนในที่ดิน เชน

                                 -  การเชาที่ดินเพื่ออยูอาศัยตองไมเกินครัวเรือนละ 1 ไร ในกรณีที่ไมมีที่อยูอาศัย
                และใหสิทธิการเชาในระยะยาว

                                 -  การเชาที่ดินเพื่อใชในการเกษตรตองไมเกินครัวเรือนละ 50 ไร โดยนับรวมกับที่ดิน

                ที่ครอบครองอยูเดิม และใหสิทธิการเชาในระยะยาว

                                 -  การเชาที่ดินเพื่อพาณิชกรรมตองไมเกินครัวเรือนละ 1 ไร
                                 -  ไมอนุญาตใหเชาเพื่อใชในอุตสาหกรรม

                             (2)    กําหนดคุณสมบัติผูมีสิทธิเชาที่ราชพัสดุ เชน

                                 -  ตองเปนบุคคลที่ไมมีที่อยูอาศัย

                                 -  ตองเปนบุคคลที่ไมที่ดินทํากิน หรือที่ดินทํากินไมเพียงพอ







         320     รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   336   337   338   339   340   341   342   343   344   345   346