Page 330 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 330

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                                                                                               National Human Rights Commission of Thailand

               แตกลับบอกเพียงวาทะเบียนที่ราชพัสดุมีที่มาจากทะเบียนที่ดินรกรางวางเปลาซึ่งรัฐบาลหวงหามและมิไดมีการระบุ

               วาเคยมีการสํารวจรังวัดอันนําไปสูการเปลี่ยนแปลงของขอความของขอบเขตและความในแตละดานและ

               เมื่อพิเคราะหรวมกับขอมูลจากผูรองที่ยืนยันถึงประวัติความเปนมาอันยาวนานของชุมชนที่ตั้งอยูในพื้นที่พิพาท

               ในขณะที่ ผูรองมิไดมีขอมูลที่ดีกวาทะเบียนทั้งสองที่มีความผิดพลาดคลาดเคลื่อน ดังนั้น คณะอนุกรรมการฯ
               จึงมีความเห็นวาแปลงที่ดินตามทะเบียนที่ราชพัสดุมีความผิดพลาดคลาดเคลื่อนจากทะเบียนเดิมและจากความ

               ผิดพลาดดังกลาวทําใหที่ตั้งแปลงที่ดินราชพัสดุทับที่ดินของราษฎร จึงเห็นไดวาการขึ้นทะเบียนที่ราชพัสดุ

               เปนความผิดพลาดของทางราชการอันทําใหเกิดการละเมิดสิทธิในที่ดินของราษฎร เพราะทําใหราษฎรเสียโอกาส

               ในการขอออกเอกสารสิทธิในที่ดินและทําใหเกิดการดําเนินการตาง ๆ ของทางราชการที่กระทบตอสิทธิของราษฎร
               การแกไขปญหาของรัฐที่ผานมาคือ การใหราษฎรในพื้นที่เชาที่ดินราชพัสดุ ซึ่งกรณีนี้เปนกรณีที่ยังมีการโตเถียง

               เรื่องกรรมสิทธิ์ ความชัดเจนเกี่ยวกับขอบเขตและที่ตั้งของที่ราชพัสดุก็ยังเปนปญหา และยังไมมีการออกหนังสือ

               สําคัญสําหรับที่หลวงที่จะระบุขอบเขตและเนื้อที่ดินอยางแนนอน ดังนั้น เมื่อปญหากรรมสิทธิ์ในที่ดินยังไมชัดเจน

               การดําเนินการของทางราชการอาจจะกอใหเกิดความเสียหายในสิทธิและทรัพยสินของราษฎรได ซึ่งทางราชการ
               ควรจะใหมีการพิสูจนสิทธิหรือรังวัดสํารวจเพื่อใหเกิดความชัดเจนในเรื่องขอบเขตที่ตั้งของแปลงที่ดินเสียกอน

               แตสํานักงาน ธนารักษมิไดดําเนินการ กลับจัดทําโครงการโครงการวา “รัฐเอื้อราษฎร” ดวยการนําที่ราชพัสดุ

               มาจัดใหเชาเพื่ออยูอาศัยและเปนที่ดินทํากินของราษฎร โดยใหสิทธิการเชามีกําหนดไมเกิน 30 ป ตามความ

               เหมาะสมของแตละโครงการเพื่อใหผูเชาสามารถเขาโครงการแปลงสินทรัพยเปนทุน ซึ่งการดําเนินการเหลานี้
               เปนการกระทําอันละเมิดสิทธิในที่ดินของราษฎรและเปนการปฏิบัติที่ไมเปนธรรม ตามรัฐธรรมนูญแหง

               ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 26 การใชอํานาจโดยองคกรของรัฐทุกองคกร ตองคํานึงถึงศักดิ์ศรี

               ความเปนมนุษย สิทธิและเสรีภาพ มาตรา 27 สิทธิและเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไวโดยชัดแจง โดยปริยาย

               หรือโดยคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยอมไดรับความคุมครองและผูกพันรัฐสภา คณะรัฐมนตรี ศาล
               และองคกรอื่นของรัฐโดยตรงในการตรากฎหมาย การใชบังคับกฎหมายและการตีความ กฎหมายทั้งปวง

               มาตรา 48 สิทธิในทรัพยสินของบุคคลยอมไดรับความคุมครอง มาตรา 60 บุคคลยอมมีสิทธิมีสวนรวม

               ในกระบวนการพิจารณาของเจาหนาที่ของรัฐในการปฏิบัติราชการทางปกครองอันมีผล หรืออาจมีผลกระทบ

               ตอสิทธิและเสรีภาพของตน และรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 29 การใชอํานาจ
               โดยองคกรของรัฐทุกองคกร ตองคํานึงถึงศักดิ์ศรีความเปนมนุษย สิทธิและเสรีภาพ มาตรา 27 สิทธิและเสรีภาพ

               ที่รัฐธรรมนูญนี้รับรองไวโดยชัดแจง โดยปริยายหรือโดยคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ยอมไดรับความคุมครอง

               และผูกพันรัฐสภา  คณะรัฐมนตรี  ศาล  รวมทั้งองคกรตามรัฐธรรมนูญ  และหนวยงานของรัฐโดยตรง

               ในการตรากฎหมาย การใชบังคับกฎหมาย และการตีความกฎหมายทั้งปวง มาตรา 41 สิทธิของบุคคลในทรัพยสิน







                                                                       รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข  309
                                                                นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   325   326   327   328   329   330   331   332   333   334   335