Page 326 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 326
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
ทําใหราษฎรเดือดรอนเปนจํานวนมาก ตอมาป 2546 ศาลชั้นตนไดมีคําพิพากษายกฟอง 11 ราย เนื่องจากพิจารณา
แลววา ราษฎรไมเจตนาบุกรุก การกระทําดังกลาวแสดงวากองทัพเรือ ไมดําเนินการตามขอตกลงที่ไดใหไวกับราษฎร
ในป 2547 รัฐบาลไดมีการตั้งคณะทํางานแกไขปญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ ใหมีคณะอนุกรรมการ
ซึ่งมีพลเอกสุรินทร พิกุลทอง เปนประธานคณะอนุกรรมการฯ ดังกลาว คณะอนุกรรมการฯ ไดเรียกประชุมราษฎร
ชี้แจงวาจะเขามาดําเนินการพิสูจนสิทธิ แยกพื้นที่ของชาวบานกับของทางราชการใหชัดเจน แตกองทัพเรือไมยอมรับ
การดําเนินการดังกลาว
ตอมา ราษฎรผูเดือดรอน ชื่อ นางสมหมาย จันเดิม ไดรองเรียนเพิ่มเติม ในปญหาความเดือดรอน
ที่ไดรับวา ที่ดินที่เคยอยูมา 50 ปซึ่งเดิมเปนที่ดินของบรรพบุรุษ สวนหนึ่งนางสมหมายฯ ไดทําเปนสนามฟุตบอล
เพื่อใหคนในชุมชนไดเลนกีฬารวมกัน ตอมาไดขอใหเปนลานจอดเฮลิคอปเตอรของนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร
ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่เกาะชาง แตก็ไมไดมีการประชุม แตก็มิไดมีการใชตามที่ขอ ตอมาทหารก็มิได
คืนที่ดังกลาวใหผูรอง ปจจุบันกลายเปนที่ของทหารผูรองไมสามารถดําเนินการใด ๆ ในพื้นที่ได เชน ปลูกบานไมได
ตัดตนไมไมได เมื่อสอบถามกับผูที่มาดําเนินการก็ไดรับคําตอบวาเจานายสั่งมาและบอกวาเปนที่ของกองทัพเรือ
อยูระหวางพิสูจนสิทธิ์
กรณีนี้ผูรองจึงรองขอความเปนธรรม เนื่องจากเปนที่ดินที่อยูระหวางการพิสูจนสิทธิ เปนที่ดิน
ของผูรองที่อยูหลังที่ดินที่มีเอกสาร ส.ค.1 ทําไมทหารจึงรีบรอนยึดที่ดินดังกลาว และสามารถปลูกสรางสิ่งใด
ก็ได แตนางสมหมายฯ ทําไมได มีการดําเนินการอะไร เมื่อไร ก็จะถูกจับกุมทันที
กรณีที่ 1 ผูรองไดครอบครองทําประโยชนในที่ดินพิพาทมาเปนเวลาชานานแลวโดยมีหลักฐานการใบแจง
การครอบครองที่ดิน (ส.ค.1) การเสียภาษีบํารุงทองที่ (ภบท.5) และการทําประโยชนเปนที่อยูอาศัยและที่ทํากิน
ในขณะที่กองทัพเรือมาขอสงวนหวงหามในป พ.ศ. 2510 หลังจากการออกใบแจงการครอบครองที่ดิน (ส.ค.1)
ประมาณ 12 ป อีกทั้งมีขอโตแยงจากกรมพัฒนาที่ดินวา พื้นที่ที่สงวนหวงหามนั้น เปนพื้นที่ที่ตองกันออกจากพื้นที่
ปาไมถาวรตามการสํารวจของกรมพัฒนาที่ดินเมื่อป 2507 ที่ไดเสนอตอคณะรัฐมนตรีเสียกอน ซึ่งกองทัพเรือ
จะอางแผนที่แนบทายมติคณะรัฐมนตรีเมื่อป 2510 นั้น เปนการไมชอบ ประกอบกับ “ความเห็นของคณะกรรมการ
กฤษฎีกา เรื่องเสร็จที่ 256 - 257/2538 บันทึกเรื่อง สถานะทางกฎหมายของที่ดินที่สงวนหวงหามไวเพื่อใชประโยชน
ในราชการแตทางราชการยังไมไดเขาใชประโยชน เห็นวา ที่ดินในเขตที่มีประกาศสงวนหรือหวงหามไวเพื่อประโยชน
ของทางราชการตามกฎหมาย จะมีสถานะเปนที่ราชพัสดุหรือไม ตองพิจารณาวาสวนราชการไดเขาใชประโยชนแลว
หรือไม ถาเขาใชประโยชนแลวที่ดินดังกลาวก็เปนที่ราชพัสดุ แตถายังไมไดเขาใชประโยชนหรือใชประโยชน
บางสวน สวนที่ยังไมไดใชก็ไมเปนที่ราชพัสดุ” ซึ่งกองทัพเรือก็ไมไดแสดงใหเห็นชัดเจนวาไดใชประโยชนในพื้นที่
พิพาทดังกลาวอยางไร เพียงแตอางลอย ๆ วา ไดใชฝกยุทธวิธี ฝกหาขาว เปนตน แตก็เปนที่ทราบกันดีวา
ชุมชนเกาะชางนั้นเปนชุมชนเกาแก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลาเจาอยูหัว รัชกาลที่ 5 เคยเสด็จประพาส
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 305
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”