Page 27 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 27

สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
                National Human Rights Commission of Thailand

                                แตชนเผาพื้นเมืองในหลายที่ทั่วโลกกลับตกเปนผูถูกกระทํา และถูกเลือกปฏิบัติในหลายลักษณะ

                จากทั้งกระบวนการสรางรัฐชาติ ที่มีกระบวนการกลืนกลายความหลากหลายของชนเผาใหเปนหนึ่งเดียว ในลักษณะ
                รัฐชาติ ทําใหชนเผาพื้นเมืองถูกปดกั้น ครอบงํา หรือไมก็ถูกกันออกจากกระบวนการพัฒนา และตกอยูในสภาพ

                “คนชายขอบ” ของสังคม เกิดปญหาถูกพรากจากที่ดิน/ถิ่นที่อยู ที่ดินถูกแยงชิง ถูกกีดกันการเขาถึงทรัพยากร
                และบริการพื้นฐานของรัฐ สูญเสียอัตลักษณทางวัฒนธรรม และเขาสูวังวนของอาชญากรรม

                                ปฏิญญาสหประชาชาติวาดวยสิทธิของชนเผาพื้นเมือง พ.ศ. 2550 ประกอบไปดวยอารัมภบท
                24 ยอหนาและเนื้อหาหลัก 46 มาตรา เนื้อหาที่สําคัญ คือ สิทธิในการนิยามตนเองในฐานะเปนชนเผาพื้นเมือง

                สิทธิในการกําหนดอนาคตตนเอง สิทธิในที่ดิน เขตแดนและทรัพยากรธรรมชาติ สิทธิในการใหการยินยอมที่ไดรับ
                การบอกแจงลวงหนาและเปนอิสระในกิจกรรมการพัฒนาในที่ดินและเขตแดนของเขา และสิทธิที่มีอยูในกฎหมาย

                สิทธิมนุษยชนอื่น ๆ ปฏิญญาฯ ยังมีลักษณะพิเศษเฉพาะ คือมีการพูดถึงสิทธิองครวม ซึ่งเปนเรื่องที่มีความสําคัญ
                อยางยิ่งสําหรับชนเผาพื้นเมือง เพราะวาวิถีชีวิตของชนเผาพื้นเมืองในหลายดานนั้นเปนประเด็นรวม หรือ

                การแบงปน เชน สิทธิความเปนเจาของในที่ดินและทรัพยากร เปนตน
                                โดยมีมาตราสําคัญที่เกี่ยวของ ไดแก

                                มาตรา 10 ชนเผาพื้นเมืองตองไมถูกบังคับใหออกจากที่ดินหรือเขตแดนของตน จะไมมีการ
                ตั้งถิ่นฐานใหมเกิดขึ้นโดยปราศจากการยินยอมที่มีการบอกแจง เขาใจลวงหนา และเปนอิสระของชนเผาพื้นเมือง

                ที่เกี่ยวของ และหลังจากที่มีขอตกลงในการชดเชยที่เปนธรรมและเหมาะสมแลว และหากเปนไปไดใหมีทางเลือก
                ในการกลับคืนถิ่นนั้นไดอีก

                                มาตรา 18 ชนเผาพื้นเมืองมีสิทธิที่จะเขารวมในการตัดสินใจในเรื่องตาง ๆ ซึ่งอาจมีผลกระทบ
                ตอสิทธิของพวกเขา โดยผานผูแทนที่พวกเขาเลือกเองตามกระบวนการของตนเอง และในการธํารงรักษาและพัฒนา

                สถาบันที่ทําหนาที่ตัดสินใจอันเปนลักษณะของชนเผาพื้นเมืองของตนเอง
                                มาตรา 25 ชนเผาพื้นเมืองมีสิทธิที่จะธํารงรักษาและเสริมสรางความเขมแข็งของความสัมพันธ

                ดานจิตวิญญาณกับที่ดิน เขตแดน นํ้า และชายฝงทะเลและทรัพยากรอื่น ๆ ซึ่งพวกเขาไดเปนเจาของตามประเพณี
                หรือมิฉะนั้นเคยครอบครองหรือใชประโยชนอยูกอนแลว และมีสิทธิที่ดํารงความรับผิดชอบในการสงเสริมสิ่งเหลานี้

                สูคนในรุนตอไป
                                มาตรา 26 ชนเผาพื้นเมืองมีสิทธิในที่ดินและเขตแดนและทรัพยากร ซึ่งพวกเขาไดครอบครอง

                เปนเจาของตามประเพณี หรือมิฉะนั้นจากการที่เคยใชหรือเคยไดรับมากอน
                                ชนเผาพื้นเมืองมีสิทธิเปนเจาของ ใช พัฒนาและควบคุมที่ดิน เขตแดนและทรัพยากรที่พวกเขา

                เปนเจาของดวยเหตุผลจากการเปนเจาของตามประเพณี หรือการครอบครองหรือการใชตามประเพณีอื่น ๆ
                รวมทั้งกรณีการไดมาซึ่งสิ่งเหลานั้นโดยวิธีอื่น












            6    รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
                 นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”
   22   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32