Page 159 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 159
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
เนื่องจากสิทธิชุมชนอันถือเปนสิทธิธรรมชาติที่ไมอาจถูกยกเลิกหรือขัดขวางไดจากรัฐ ทําใหในการ
ตรากฎหมาย การใชกฎหมาย และการตีความกฎหมายของรัฐ จึงควรถือเปนหนาที่ที่รัฐตองรับรองและคุมครอง
สิทธิชุมชนใหมีสถานะที่เทาเทียมกับสิทธิและเสรีภาพในดานอื่น ๆ ดวย แตเนื่องจากบทบัญญัติของกฎหมาย
วาดวยการปาไมเกิดขึ้นในชวงเวลาที่แนวคิดสิทธิชุมชนยังไมถูกยอมรับใหมีสถานะที่เทาเทียมกับสิทธิและเสรีภาพ
ดานอื่น ๆ ในรัฐ ประกอบกับแนวคิดในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติโดยรัฐเพียงหนวยเดียว ทําใหบทบัญญัติ
ของกฎหมายวาดวยการปาไมจึงไมมีบทบัญญัติใดที่กําหนดใหรัฐตองมีหนาที่อยางเครงครัดในการรับรอง
และคุมครองสิทธิของชุมชนใหเทาเทียมกับการทําหนาที่ในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในฐานะที่เปน
สมบัติของรัฐ แมกฎหมายจะมิไดมีบทบัญญัติใดที่ปดกั้นการใชสิทธิของชุมชนอยางสิ้นเชิง แตก็ยังไมเอื้ออํานวย
ใหการใชสิทธิในการจัดการและใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติของชุมชนมีไดอยางเพียงพอและยั่งยืน
ซึ่งอาจทําใหสถานการณปญหาการละเมิดสิทธิชุมชนอาจกลับมามีความรุนแรงไดอีกครั้ง
และเนื่องจากมาตรา 27 ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ไดกําหนดใหสิทธิ
และเสรีภาพที่รัฐธรรมนูญรับรองโดยชัดแจง ยอมไดรับความคุมครองจากองคกรของรัฐ โดยในกรณีนี้
สิทธิชุมชนซึ่งไดถูกรับรองไวโดยชัดแจงในมาตรา 66 และมาตรา 67 ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2550 และยังถูกรับรองไวในคําพิพากษาของศาลรัฐธรรมนูญและศาลปกครองอีกหลายคดี
วาสิทธิชุมชนที่รับรองในรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทยนั้น มีผลบังคับใชโดยทันที จึงถือไดวาสิทธิชุมชน
ตองไดรับความคุมครองทั้งในการตรากฎหมาย การใชบังคับกฎหมาย และการตีความกฎหมายของหนวยงาน
ของรัฐตาง ๆ ดวยโดยทันทีเชนกัน
ดังนั้น แมบทบัญญัติของกฎหมายวาดวยการปาไม จะมิไดเอื้ออํานวยตอการใชสิทธิของชุมชน
อยางเพียงพอและยั่งยืนและทําใหรัฐมีทัศนคติที่ไมถือเปน “หนาที่ตามกฎหมาย” ที่ตองรับรองและคุมครอง
สิทธิชุมชนอยางเครงครัดและเทาเทียมกับหนาที่ในการดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติในฐานะสมบัติของรัฐ
แตหากพิจารณาตามบทบัญญัติมาตรา 27 ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ก็ถือไดวา
รัฐธรรมนูญไดกําหนดใหเจาหนาที่รัฐตองถือเปนหนาที่โดยทันทีนับตั้งแตรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2550 มีผลบังคับใชในการรับรองและคุมครองสิทธิชุมชนทั้งในการใชและการตีความกฎหมาย
และเจาหนาที่รัฐก็มิอาจปฏิเสธหนาที่ในการรับรองและคุมครองสิทธิชุมชนได เพราะหนาที่ดังกลาวนั้นไดถูกกําหนด
ไวอยางชัดแจงในรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 อันเปนกฎหมายสูงสุดของรัฐ
138 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”