Page 157 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 157
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
2) ปญหาจากเนื้อหากฎหมาย
กฎหมายที่เกี่ยวกับปาไมมีปญหามากเพราะสาระของกฎหมายไมไดตั้งอยูบนฐานความจริง แตมี
สมมติฐานบนมายาคติหลายประการ เชน คนจนมักทําลายปา การปราบปรามอยางเขมงวดรุนแรงจะรักษาปาไวได
ปาที่เหลืออยูเพราะเจาหนาที่รัฐรักษา รัฐเทานั้นที่จะรักษาปาไวได จึงทําใหตัวบทกฎหมายไมเปนธรรม
เจาหนาที่รัฐใชดุลพินิจชี้ผิดชี้ถูกเองคอนขางมาก
การออกกฎหมายที่เกี่ยวกับที่ดินและปาไมที่ดีและนําไปสูการปฏิบัติได อยางนอยตองอยูบนหลักการ
สําคัญดังตอไปนี้
1) ยึดมั่นในเจตนารมณของกฎหมาย ไมปลอยใหฝายการเมืองเขามาใชชองวางหาผลประโยชน
2) ตองมั่นคงในหลักการดานสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานที่วาที่ดินกับปาไมเปนทรัพยากรพื้นฐานที่สําคัญ
ของชีวิตที่มนุษยทุกคนตองเขาถึงและใชประโยชนเพื่อการดํารงชีพไดอยางเหมาะสม
3) ตองเนนการกระตุนจูงใจและสรางแรงบันดาลใจใหประชาชนเกิดความหวงแหนในที่ดินปา
และฐานทรัพยากรและรักษามันเทาชีวิตมากกวาการเนนการใหรางวัลและลงโทษ
4) ตองใหความสําคัญอยางเทาเทียมกันกับกระบวนการพัฒนากฎหมาย เนื้อหากฎหมาย และกลไก
การขับเคลื่อนกฎหมายใหไปสูการปฏิบัติที่เปนที่ยอมรับของประชาชน (เพิ่มศักดิ์ มกราภิรมย, 2553)
ประเด็นสําคัญทางกฎหมายที่ควรปรับปรุงแกไขมีดังนี้
การนิยามและกําหนดพื้นที่ปา โดยบทบัญญัติของกฎหมายปาไมตางนิยามพื้นที่ “ปา” ในความหมาย
เดียวกัน คือ ที่ดินที่ยังมิไดมีบุคคลใดไดมาโดยชอบดวยกฎหมาย ทําใหแมชุมชนจะมีหลักฐานการครอบครอง
ที่ดินมากอนที่ชัดเจนเพียงใด แตหากไมมีการดําเนินการโดยชอบตามกฎหมายที่ดิน บุคคลหรือชุมชนนั้น
ก็ไมมีสิทธิในการจัดการและใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติภายในที่ดินที่ตนครอบครองอยูและตองตกอยูในบังคับ
ของกฎหมายฉบับนี้ โดยกฎหมายไมสนใจวาการที่จะใหชุมชนที่อยูในพื้นที่ปาเขาหางไกลมาแจงการครอบครองที่ดิน
ตามกฎหมายที่ดินนั้นเปนไปไดหรือไม ทั้งนี้ ยังไมไดพิจารณาดวยวา ชุมชนเหลานี้รูหรือไมวา มีกฎหมายกําหนดให
พวกเขาตองดําเนินการดวยหรือไม ในขณะเดียวกัน การกําหนดพื้นที่ใหเปนเขตรักษาพันธุสัตวปา เขตอุทยาน
แหงชาติ หรือเขตปาสงวนแหงชาติ ก็เปนอํานาจของรัฐเพียงหนวยเดียวเทานั้น โดยไมไดเปดใหชุมชน
ซึ่งอยูอาศัยในพื้นที่มาชานานไดมีสวนรวมในการตัดสินใจดวยเลย ทําใหในการพิจารณาพื้นที่ที่เหมาะสม
รัฐจึงพิจารณาเฉพาะประเด็นดานความอุดมสมบูรณของทรัพยากรธรรมชาติเทานั้น โดยไมไดพิจารณาในประเด็น
การครอบครองหรือใชประโยชนทรัพยากรธรรมชาติที่สัมพันธกับชุมชนในฐานะที่เปนปจจัยสําคัญการดํารงชีวิต
ของชุมชน และไมไดเปดใหชุมชนซึ่งอยูอาศัยในพื้นที่มาชานานไดมีสวนรวมในการตัดสินใจดวย พื้นฐานแนวคิด
ของรัฐในการกําหนดพื้นที่ปาดังกลาวนั้น สะทอนใหเห็นแนวคิดที่ไมยอมรับตัวตนของชุมชนและแนวคิด
ในการหวงกันทรัพยากรธรรมชาติโดยรัฐเพียงหนวยเดียว
การไมยอมรับตัวตนของชุมชนที่ครอบครองและทําประโยชนอยูกอนแลวในพื้นที่ดังกลาว ทําใหชุมชน
จึงกลายเปนผูกระทําผิดกฎหมายของรัฐ ทั้งที่หากพิจารณาตามหลักสิทธิชุมชนทั้งตามกฎหมายระหวางประเทศ
และรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ชุมชนในพื้นที่ปาหลายพื้นที่อาจถือเปนผูทรงสิทธิชุมชน
136 รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”