Page 160 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง เพื่อปรับปรุงแก้ไขนโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนด้านที่ดินและป่า
P. 160
สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ
National Human Rights Commission of Thailand
4.6 สรุปและขอเสนอแนะ
เพื่อปองกันหรือลดการละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินปาไม จึงมีขอเสนอแนะเพื่อปรับปรุงแกไข
นโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวของกับที่ดินปาไมดังนี้
นโยบายปาไมแหงชาติ
สาระสําคัญของนโยบายปาไมแหงชาติ ซึ่งกําหนดไว 20 ขอ มีประเด็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพ
ของประชาชน เกี่ยวกับการกําหนดพื้นที่ปาในขอ 4 การกําหนดพื้นที่ความลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอรเซ็นต
ขึ้นไปไวเปนพื้นที่ปาไมในขอ 17
ประเด็นการกําหนดใหมีพื้นที่ปาไมอยางนอยรอยละ 40 ของพื้นที่ประเทศ เพื่อประโยชน 2 ประการ
คือ ปาเพื่อการอนุรักษรอยละ 15 และปาเพื่อเศรษฐกิจรอยละ 25 ประเด็นนี้มีปญหาเพราะเจาหนาที่มักอางพื้นที่
ปาปจจุบันยังไมครบเปาหมายจึงประกาศเขตปาเพิ่มขึ้นในพื้นที่ตาง ๆ ซึ่งในจํานวนนั้นไมไดมีสภาพเปนปาแลว
และในทางปฏิบัติกลับตรงกันขาม ปจจุบันรัฐประกาศพื้นที่ปาเพื่อการอนุรักษเพิ่มขึ้นกวารอยละ 25 ทั้ง ๆ ที่พื้นที่
ราวครึ่งหนึ่งของพื้นที่ประกาศเปนพื้นที่ที่ชุมชนใชประโยชนทั้งเปนที่อยูอาศัย ที่ทํากิน ที่สาธารณะ และที่ปาใชสอย
ของชุมชน จึงควรทบทวนการกําหนดพื้นที่เปาหมายปาไมของชาติเสียใหมใหสอดคลองกับบริบททางสังคม
โดยกระบวนการที่มีชุมชนเปนฐาน สรางการมีสวนรวมของชุมชนในการกําหนดเขตปาประเภทตาง ๆ ตั้งแต
ระดับหมูบาน ตําบล ขึ้นมาถึงจังหวัดและกลุมพื้นที่ตามสภาพภูมินิเวศ แนวทางนี้อาจจะทําใหพื้นที่ปา
ของประเทศเกินเปาหมายรอยละ 40 ก็ได แตที่สําคัญคือจะทําใหการกําหนดเขตปาในแตละทองถิ่นสอดคลอง
กับสภาพภูมินิเวศและระบบสังคมและเศรษฐกิจในทองถิ่นนั้น ๆ
ประเด็นการกําหนดพื้นที่ลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอรเซ็นต ขึ้นไปไวเปนพื้นที่ปาไม โดยไมอนุญาตใหมีการ
ออกโฉนด หรือ น.ส.3 ตามนโยบายปาไมขอ 17 เห็นวาไมสอดคลองกับบริบททางสังคม โดยเฉพาะในบางพื้นที่
เชน จังหวัดเชียงใหม นาน แมฮองสอน หรือในพื้นที่ภาคใต ซึ่งภูมิประเทศสวนใหญเปนภูเขา มีชุมชนอาศัยทํากิน
อยูมานาน มีระบบการใชที่ดินที่ยั่งยืนและสอดคลองกับระบบนิเวศเชนระบบไรหมุนเวียนในภาคเหนือ ระบบปายาง
สวนสมรม และสวนดุซงในภาคใต ระบบเกษตรผสมผสานกับการเลี้ยงสัตวในภาคเหนือและภาคตะวันออก
เฉียงเหนือ ในทางปฏิบัติจึงไมสามารถกําหนดพื้นที่ลาดชันโดยเฉลี่ย 35 เปอรเซ็นตเปนพื้นที่ปาไดทุกพื้นที่แบบ
เหมารวม ตองพิจารณากันเปนพื้นที่ไปรวมทั้งพื้นที่ที่ลาดชันเฉลี่ยตํ่ากวาเกณฑก็ยังสามารถกําหนดเปนพื้นที่ปาไดถา
ยังมีสภาพปาเดิมที่สมบูรณหรือมีความจําเปนในดานการปกปองสภาวะแวดลอม ซึ่งสามารถกระทําได
ถายอมรับกระบวนการมีสวนรวมของประชาชนในทองถิ่น ดวยการสรางกลไกการทํางานรวมกันระหวางประชาชน
ทองถิ่นกับเจาหนาที่รัฐ
ในสวนสาระที่เขียนไวดีแลวแตไมนําไปปฏิบัติอยางจริงจังเชน ในขอ 9 เรงรัดปรับปรุงการวางผังเมือง
และกําหนดพื้นที่ที่อยูอาศัย พื้นที่ชนบทและพื้นที่เกษตรในแตละจังหวัดใหแนนอน เพื่อปองกันการบุกรุก
พื้นที่ปาไม และขอ 2, 5, 12 และขอ 19 ที่กลาวถึงภาคเอกชน ควรจะตองใหความสําคัญกับราษฎรในทองถิ่น
ซึ่งเปนประชากรสวนใหญของประเทศที่อยูใกลชิดกับทรัพยากรปาไมไดมีบทบาทสําคัญในการตัดสินใจในแผน
และโครงการปาไมในดานตาง ๆ
รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง “เพื่อปรับปรุงแกไข 139
นโยบายกฎหมายที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนดานที่ดินและปาไม”