Page 79 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกับการตรวจสอบการละเมิดสิทธิมนุษยชนในความสัมพันธ์ระหว่างเอกชนด้วยกัน
P. 79
ตัวอยางเชน คําพิพากษาฎีกาที่ 3699 - 3739/2541 ซึ่งเปนกรณีที่ศาลฎีกาหยิบยกบทบัญญัติ
เกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพตามมาตรา 38 ของรัฐธรรมนูญใชตัดสินในคดีโดยตรง ซึ่งมีประเด็นวาการใชสิทธิเสรีภาพ
ในการนับถือศาสนาของสมณะพิสุทโธเปนการใชสิทธิเสรีภาพที่ขัดตอกฎหมายหรือไม โดยศาลฎีกาตัดสินวา “แม
รัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 38 จะบัญญัติให บุคคลยอมมีเสรีภาพบริบูรณ
ในการนับถือศาสนา มีเสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนาบัญญัติ แตก็ไดบัญญัติแสดงความมุงหมายไวดวยวา การใช
เสรีภาพดังกลาวจะตองไมเปนปฏิปกษตอหนาที่พลเมือง และไมเปนการขัดตอความสงบเรียบรอยหรือศีลธรรม
อันดีของประชาชน แมวาจําเลยจะมีสิทธิเสรีภาพดังกลาว แตการที่จําเลยขอลาออกจากการปกครองของมหาเถร
สมาคมและแยกตัวมาตั้งพุทธสถานสันติอโศก โดยวางกฎระเบียบตาง ๆ และพยายามปฏิบัติตนตามพระธรรมวินัย
ก็ตาม แตก็เปนการกระทําที่ฝาฝนพระราชบัญญัติคณะสงฆ พ.ศ.2505 ที่บัญญัติขึ้นโดยชอบดวยรัฐธรรมนูญ
เพื่อใหการปกครองคณะสงฆเปนไปดวยความเรียบรอย ปองกันมิใหบุคคลผูมีเจตนาไมสุจริตอาศัยรมเงาพระพุทธ
ศาสนามาหาประโยชนใสตน ดังนั้นจําเลยจึงตองปฏิบัติตามกฎหมายดังกลาว” การกระทําที่ฝาฝนพระราชบัญญัติ
คณะสงฆของจําเลยในกรณีนี้จึงมีลักษณะเปนการใชสิทธิและเสรีภาพเกินขอบเขตที่บทบัญญัติแหงรัฐธรรมนูญให
ความคุมครอง
นอกจากนี้ ยังมีกรณีศาลฎีกาหยิบยกบทบัญญัติในเรื่องสิทธิและเสรีภาพมาใชตีความบทบัญญัติ
กฎหมายที่ใชบังคับแกคดี เชน ในคําพิพากษาฎีกาที่ 1493/2543 เรื่องนี้ศาลฎีกาตัดสินวา “พระราชบัญญัติ
การเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ.2482 มาตรา 21(9) ที่บัญญัติถึงการเปนบุคคลตองหามมิใหใชสิทธิสมัคร
รับเลือกตั้งวา “...ตองคําพิพากษาหรือคําสั่งที่ชอบดวยกฎหมายใหจําคุก และถูกคุมขังอยูโดยหมายของศาล หรือ
โดยคําสั่งนั้น” เปนบทบัญญัติที่ตัดสิทธิของบุคคล จึงตองตีความในทางรักษาสิทธิของผูตองถูกตัดสิทธิ โดยคํานึง
ถึงบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 มาตรา 33 วรรคสองที่บัญญัติวา “กอนมี
คําพิพากษาถึงที่สุดแสดงวาบุคคลใดไดกระทําความผิด จะปฏิบัติตอบุคคลนั้นเสมือนเปนผูกระทําผิดมิได” การที่
ผูคัดคานถูกพิพากษาใหจําคุกโดยศาลชั้นตน ซึ่งคดียังไมถึงที่สุด ผูคัดคานจึงยังไมพนจากตําแหนงกรรมการ
สุขาภิบาลตามพระราชบัญญัติสุขาภิบาล พ.ศ. 2495 มาตรา 10 (4)” คําพิพากษานี้จึงเปนตัวอยางของการใช
หลักการแหงสิทธิเสรีภาพที่เกี่ยวกับการคุมครองสิทธิเสรีภาพสวนบุคคลมาใชตีความพระราชบัญญัติการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาเทศบาล พ.ศ. 2482 เปนตน
(2) การคุมครองสิทธิและเสรีภาพโดยศาลปกครอง
การที่ประชาชนจะนําคดีที่เกี่ยวพันกับสิทธิและเสรีภาพขึ้นสูการพิจารณาของศาล
ปกครองไดนั้น นอกจากจะตองเปนไปตามหลักเกณฑของมาตรา 223 ของรัฐธรรมนูญแหงราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช 2550 กลาวคือ คดีดังกลาวจะตองเปนคดีปกครอง อันไดแก คดีที่อันเปนขอพิพาทระหวางหนวยงานของรัฐ
หรือเจาหนาที่ของรัฐกับเอกชน หรือเปนขอพิพาทระหวางหนวยงานของรัฐหรือเจาหนาที่ของรัฐดวยกันเองแลว
ยังตองเปนไปตามหลักเกณฑของพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542
โดยในมาตรา 9 แหงพระราชบัญญัติดังกลาวกําหนดประเภทของคดีปกครองที่สามารถนําเสนอตอศาลปกครอง
อันนําไปสูชองทางที่จะสามารถหยิบยกบทบัญญัติในเรื่องสิทธิและเสรีภาพมาใชในการพิจารณาตัดสินคดี
ซึ่งมีดวยกันทั้งหมด 6 ประเภท คือ
60