Page 75 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 75

48  รายงานการศึกษาวิจัย
              การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี



              จากนายจางคนหนึ่งในธุรกิจขายรถยนต ซึ่งแมวาในกิจการของเขาจะมิไดมีการบังคับตรวจเลือดในการสมัครงาน
              แตก็ไดตั้งขอสังเกตไววา โดยทั่วไป นายจางจะใหความสําคัญกับประสิทธิภาพในการทํางานของพนักงานเปนหลัก

              และอาจเกรงวาในกรณีที่พนักงานติดเชื้อจะเปนการลดประสิทธิภาพในการทํางานของลูกจาง 108
                            จากการเก็บขอมูล พบวา ในชวงป 2551 - ปจจุบัน มีกรณีการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพ

              ของผูติดเชื้อเอชไอวีที่สําคัญ ดังนี้ 109
                            . การเลือกปฏิบัติในธุรกิจโรงแรม (2551)

                               พนักงานซักรีดของโรงแรมแหงหนึ่งซึ่งรูตัววาติดเชื้อเอชไอวีจากการตรวจสุขภาพประจําป
              ซึ่งกําหนดใหมีการตรวจเอชไอวี อยางไรก็ดี แมจะติดเชื้อเอชไอวีแตโรงแรมแหงเดิมก็ยังคงจางงานตอ แตเมื่อผูติดเชื้อ

              ไดไปสมัครงานที่โรงแรมแหงใหมในตําแหนงเดิมที่มีเงินเดือนและสวัสดิการดีกวา เมื่อโรงแรมแหงใหมเรียกตัว
              ใหไปเริ่มทํางาน โดยแจงวาใหไปตรวจสุขภาพโดยระบุวาตองตรวจหาเชื้อเอชไอวี ในกรณีนี้ เจาหนาที่จากมูลนิธิ

              ศูนยคุมครองสิทธิดานเอดสใหคําแนะนําวา ยังไมควรจะออกจากงานที่เดิม
                               และในอีกกรณีหนึ่ง เปนการบังคับตรวจเลือดในธุรกิจโรงแรม โดยกําหนดใหตรวจกับคลินิก

              ที่ทํางานเชื่อมโยงกับโรงแรม ทําการตรวจเลือดและสงผลใหโรงแรมโดยตรง โดยที่เจาตัวไมรับรู
                            . การเลือกปฏิบัติในบริษัทขายอาหารและเบเกอรี่ (2551)

                               ผูติดเชื้อสมัครงานในตําแหนงพนักงานรับโทรศัพทในบริษัทขายอาหารและเบเกอรี่ เมื่อผาน
              การสัมภาษณแลว ฝายบุคคลของบริษัทไดสงตัวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลที่กําหนด ซึ่งโรงพยาบาลจะสง

              ผลเลือดไปยังฝายบุคคลของบริษัท โดยระบุใหตรวจหาเชื้อไวรัสเอดสดวย สุดทายกรณีดังกลาว ผูติดเชื้อตัดสินใจ
              ไมทํางานกับบริษัทแหงนี้ และหางานใหมที่ไมตรวจเลือดกอนทํางาน

                            . การเลือกปฏิบัติในธุรกิจขายรถยนต (2551)
                               เมื่อผูติดเชื้อสมัครงานในตําแหนงพนักงานขายรถยนต และไดลงนามในหนังสือสัญญาเปน

              พนักงานและทําสัญญาคํ้าประกันเรียบรอยแลว บริษัทไดสงตัวผูสมัครเขาตรวจสุขภาพ โดยระบุใหตรวจรางกาย
              ทั่วไป ตรวจปสสาวะ ตรวจความสมบูรณของเม็ดเลือด ตรวจ X-RAY ปอดเพื่อดูภาพปอดและหัวใจ (ฟลมใหญ)

              และตรวจหาเชื้อไวรัสเอดส (ANTI-HIV) ในกรณีนี้ ผูติดเชื้อสามารถเลือกโรงพยาบาลและไปรับผลการตรวจไดดวย
              ตนเอง

                            . การเลือกปฏิบัติในธุรกิจขายปลีกที่มีการขายอาหาร (2552)
                               เมื่อผูติดเชื้อไปสมัครงานตําแหนงผูชวยผูจัดการ ในสถานประกอบการธุรกิจขายปลีกที่มี

              การขายอาหาร หลังจากสอบสัมภาษณและสอบขอเขียนผานแลว บริษัทสงตัวไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล
              ในเครือขายบริษัท โดยใบสงตัวระบุวาตรวจหาเชื้อเอชไอวี เมื่อผลการตรวจสุขภาพออกมา บริษัทก็ไมรับเขาทํางาน

              โดยใหเหตุผลวา เปนเพราะบริษัททํางานเกี่ยวกับอาหาร (กรณีนี้ มีการรองเรียนไปยังคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน
              แหงชาติ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2552 เลขรับคํารอง 544/2552) 110





              108  เจาของดีลเลอรธุรกิจขายรถยนตแหงหนึ่ง (ไมเปดเผยชื่อ), สัมภาษณ, 7 พฤศจิกายน 2556
              109  ขอมูลจากมูลนิธิศูนยคุมครองสิทธิดานเอดส
              110  ดูรายละเอียดเพิ่มเติมในขอมูลที่ไดจากการสัมภาษณผูติดเชื้อในสวนตอไป
   70   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80