Page 80 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 80

รายงานการศึกษาวิจัย  53
                                                             การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี



               ฝายราชการตองยินยอมแตงตั้ง (ในขณะที่อีกกรณีหนึ่งเปนการแตงตั้งคนอื่น ๆ ใหดํารงตําแหนงแทนผูติดเชื้อ
               และใหผูติดเชื้อเปนผูทํางานหลัก) หรือการที่องคการบริหารสวนทองถิ่นแหงหนึ่ง ไมเลือกปฏิบัติและยังสนับสนุน

               ชวยเหลือใหผูติดเชื้อไดทํางานตอไป เนื่องจากผูบริหารองคกรแหงนั้นเคยมีประสบการณที่ญาติเปนผูติดเชื้อ จึงมี
               ความเขาใจและใหโอกาสใหผูติดเชื้อไดดําเนินชีวิตตามปกติ 123

                             เมื่อพิจารณาจากกรณีการเลือกปฏิบัติที่กลาวมาขางตน จะเห็นไดวาเมื่อผูติดเชื้อเลี่ยงกระบวนการ
               เลือกปฏิบัติในระดับสถาบันการทํางาน และกลับมาประกอบอาชีพที่ไมตองมีการบังคับใหตรวจเลือดในชุมชน

               แตก็ยังไดรับผลกระทบจากการเลือกปฏิบัติในระดับชุมชนอยูดี อยางไรก็ดี ขอมูลจากการสนทนากลุม
               แสดงใหเห็นวา เมื่อพวกเขาถูกเลือกปฏิบัติในระดับชุมชน ทางออกที่สําคัญ คือ ความพยายามในการพิสูจนตนเอง

               เพื่อแสดงใหคนอื่น ๆ เห็นวาพวกเขายังมีสุขภาพแข็งแรง ไมไดอยูในสภาพที่นารังเกียจ พรอมไปกับการพยายาม
               ทําความเขาใจกับคนในชุมชน โดยมีเครือขายผูติดเชื้อในทองถิ่นเปนกลไกที่สําคัญในการสนับสนุน ใหกําลังใจ

               รวมแกไขปญหา ทําใหผูติดเชื้อยังคงดําเนินชีวิตไดตามปกติ แมวาจะเปดเผยสถานะการเปนผูติดเชื้อของ
               ตนเองก็ตาม



                             ผลกระทบจากการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี

                             ขอมูลสวนนี้ เปนผลมาจากการสนทนากลุมผูติดเชื้อเอชไอวี 2 ครั้ง ประกอบกับการสนทนา

               กลุมผูใกลชิดผูติดเชื้อโดยทั้งสองกลุมมองวา การบังคับตรวจเลือดในการสมัครงาน ซึ่งเปนดานแรกในการเขาสู
               ตลาดแรงงาน สงผลกระทบโดยตรงตอความมั่นคงทางเศรษฐกิจของครอบครัวผูติดเชื้อ ทําใหผูติดเชื้อมีทางเลือก

               ในการประกอบอาชีพนอยลง ขาดโอกาสในความกาวหนาในการทํางาน ตลอดจนโอกาสในการเพิ่มรายได และ
               ในหลายกรณี เมื่อผูติดเชื้อสูญเสียอาชีพหลัก และกลับมาทํางานในชุมชนก็ยังถูกเลือกปฏิบัติในระดับชุมชน

               ผลกระทบจึงไมเพียงเกิดขึ้นกับเฉพาะตัวผูติดเชื้อเอชไอวี แตคนในครอบครัวก็ยังไดรับผลกระทบจากการเลือก
               ปฏิบัติที่ขยายไปถึงความสัมพันธเรื่องอื่น ๆ ในชุมชนดวย

                             สําหรับผูติดเชื้อที่ประกอบธุรกิจขายอาหารปรุงสําเร็จ นอกจากลูกคาจะไมซื้ออาหารแลว
               ยังรังเกียจไปถึงอาหารที่ครอบครัวของผูติดเชื้อเปนผูปรุงดวย และเมื่อผูติดเชื้อไปรวมงานประเพณีที่วัดก็ถูกกีดกัน

               ไมใหทํากิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับอาหารเปนตน 124
                             สวนผลกระทบทางออมจากการเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อนั้น ปรากฏออกมา

               ในหลายรูปแบบที่สําคัญไดแก
                             (1) ทําใหผูติดเชื้อยิ่งตีตราบาปใหตัวเอง (self-stigma) หรือเปนการตีตราภายในตนเอง (internal

               stigma) ยอมรับทัศนะของคนรอบขางวา การติดเชื้อเอชไอวีเปนเรื่องผิดบาป นารังเกียจ เห็นวา การเลือกปฏิบัติ
               ของคนอื่น ๆ เปนเรื่องที่ถูกตอง เหมาะสม ดังนั้น จึงเลือกที่จะไมเปดเผยขอมูลของตนเอง แตใชชีวิตอยูอยาง

               หวาดระแวง เกรงวาผูอื่นจะรูตลอดเวลาในหลายกรณีที่ผูติดเชื้อตัดสินใจเปดเผยขอมูลและเขารับการรักษา
               ชาเกินไป ทําใหเสียชีวิตกอนเวลาอันควร 125




               123  การสนทนากลุมผูติดเชื้อเอชไอวี ครั้งที่ 1, 14 มกราคม 2556
               124  การสนทนากลุมผูใกลชิดผูติดเชื้อครั้งที่ 2, 27 มกราคม 2556
               125  การสนทนากลุมผูติดเชื้อเอชไอวี ครั้งที่ 2, 27 มกราคม 2556
   75   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85