Page 77 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผู้ติดเชื้อเอชไอวี
P. 77

50  รายงานการศึกษาวิจัย
              การเลือกปฏิบัติในการประกอบอาชีพของผูติดเชื้อเอชไอวี



                     กรณีศึกษาที่ 1 ถูกบังคับตรวจเลือด เปดเผยผลเลือดและไมรับเขาทํางานเพราะมีเชื้อเอชไอวี 114
                     แมน (นามสมมติ) เปนผูติดเชื้อเอชไอวีที่ไปสมัครงานในตําแหนงผูชวยผูจัดการรานคาซุปเปอรมารเก็ต

              ของบริษัทขนาดใหญแหงหนึ่ง กวาจะไดเขาทํางาน แมนตองผานทั้งการสอบขอเขียน และการสัมภาษณถึง 2 ครั้ง
              โดยสอบขอเขียนและสอบสัมภาษณที่สํานักงานใหญ และยังตองสอบสัมภาษณที่บริษัทในเครืออีกครั้ง

              เมื่อแมนสอบผานทุกขั้นตอน บริษัทแมไดสงตัวแมนไปตรวจรางกายเพื่อหาไวรัสเอดส Anti-HIV ที่โรงพยาบาล
              ในเครือเดียวกับบริษัท และเมื่อผลเลือดออกมาวา แมนมีเชื้อเอชไอวีบริษัทแหงนั้นจึงไมรับแมนเขาทํางาน

                     แมนไดโทรศัพทไปปรึกษามูลนิธิศูนยคุมครองสิทธิดานเอดส และไปรองเรียนที่ศูนยรับเรื่องรองเรียน
              สํานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหงชาติ ตั้งแตป 2552 เพื่อตองการใหมีการสรางทัศนคติที่ดีตอผูติดเชื้อ

              รวมถึงเปนการสรางโอกาสใหผูติดเชื้อทั้งที่รูตัวและไมรูตัวไดมีงานทํา จนปจจุบันเรื่องดังกลาวก็เงียบหายไป
                     ปจจุบันแมนไดเขาทํางานในบริษัทลูกอีกแหงที่อยูในเครือของบริษัทแมเหมือนเดิม ในกิจการที่ไมได

              เกี่ยวของกับอาหาร แมนยอมรับวาในกิจการของเอกชนเปนเรื่องยากที่จะมีการบังคับในกฎหมาย เขามองวาการที่
              เขาไดทํางานในบริษัทแมแหงเดิม ก็แสดงใหเห็นแนวโนมวา ผูบริหารระดับสูงก็มีการปรับตัวยอมรับผูติดเชื้อใน

              ระดับหนึ่ง
                     สําหรับในเรื่องการรองเรียน เขายอมรับวาเมื่อไปรองเรียนแลวไมไดผล เขาก็ยอมรับไดวา “ไมก็คือไม”

              แตถาสามารถมีมาตรการใด ๆ ที่ชวยใหผูติดเชื้อรุนหลัง ๆ มีโอกาสในการทํางาน ก็จะเปนเรื่องดี



                     กรณีศึกษาที่ 2  ถูกใหออกจากงานเพราะติดเชื้อเอชไอวี 115
                     หญิง (นามสมมติ) เปนผูติดเชื้อเอชไอวีที่เพิ่งผานการรักษาตัวจากโรคแทรกซอน ในชวงพักฟน

              หญิงไดอาศัยอยูบานพักที่ใคร ๆ ก็รูวาเปนบานพักสําหรับผูติดเชื้อ เมื่อสุขภาพแข็งแรงขึ้นสามารถใชชีวิต
              ไดตามปกติ หญิงจึงเริ่มออกไปหางานทําและไดงานที่รานอาหารที่มีแฟรนไชสมากมายแหงหนึ่ง ซึ่งไมมีการบังคับ

              ใหผูสมัครงานตองตรวจเลือด เมื่อบริษัทรับเขาทํางานหญิงก็ตองลงทุนขอยืมเงินเพื่อนมาซื้อเสื้อผาเพื่อให
              ถูกระเบียบกับรานอาหารแหงนั้น ตําแหนงงานที่หญิงรับผิดชอบมีทั้งในครัวและสวนที่ตองบริการลูกคา

              หญิงทํางานไดไมกี่วัน ผูจัดการสาขาแหงนั้นก็เรียกหญิงไปคุยและบอกหญิงวา มีลูกคาซึ่งอาศัยอยูใกลที่พัก
              ของหญิง และรับรูวาบานพักแหงนั้นเปนบานพักของผูติดเชื้อมาแจงผูจัดการวา หญิงเปนคนที่อาศัยอยูบานพัก

              ผูติดเชื้อ ผูจัดการจึงสอบถามวา หญิงติดเชื้อจริง ๆ หรือไม เมื่อหญิงยอมรับวาตนเองติดเชื้อ ก็ถูกผูจัดการตําหนิ
              ที่ไมบอกความจริง พรอมทั้งกลาวโทษวา ถาเพื่อนรวมงานติดเชื้อจะวาอยางไร หญิงพยายามทําความเขาใจกับ

              ผูจัดการวา เชื้อเอชไอวีไมไดติดกันงาย ๆ และมีชองทางการติดตออยางไรบาง แตผูจัดการก็ไมรับฟงและใหหญิง
              ออกจากงาน โดยคืนบัตรพนักงาน และบอกวาจะโอนคาจางใหทีหลัง

                     สําหรับหญิง การตกงานในครั้งนี้ไมเพียงทําใหหญิงสูญเสียรายไดหลัก และตองเปนหนี้ที่เกิดจากการ
              ขอยืมเงินเพื่อนมาเพื่อลงทุนซื้อเสื้อผามาทํางานเทานั้น แตยังหมายถึงการสูญเสียความมั่นใจที่หญิงเพิ่งฟนฟูขึ้นมา

              หลังจากการเจ็บปวยอีกดวย หญิงรูสึกกลัวไปหมดถาจะตองไปเริ่มสมัครงานใหม ณ เวลานั้น หญิงเองยังไมแนใจ
              วาจะกลับไปทํางานดวยซํ้า ถาหลังการเจรจาครั้งลาสุดรานอาหารแหงเดิมจะยังรับหญิงไปทํางานเหมือนเดิม



              114  ผูติดเชื้อเอชไอวี,สัมภาษณ 7 พฤศจิกายน 2556
              115  ผูติดเชื้อเอชไอวี, สัมภาษณ, 27 พฤษภาคม 2556
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82