Page 280 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 280
278 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
มาตรการลงโทษปรับทางปกครองแทนซึ่งเหมาะสมกว่า ทั้งยังสอดคล้องกับกระบวนการยุติธรรม
ทางเลือกด้วย ส่วนมาตรการลงโทษกรณีผู้กระทำาผิดเป็นนิติบุคคล ซึ่งพระราชบัญญัติการประกอบ
ธุรกิจข้อมูลเครดิตฯ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ กำาหนดวางหลักเกณฑ์ให้
กรรมการผู้จัดการ ผู้จัดการ ผู้แทน/ผู้รับผิดชอบรับโทษด้วย เว้นแต่พิสูจน์ได้ว่าไม่ได้รู้เห็น ไม่ยินยอม
หรือไม่มีส่วนร่วมในการกระทำาผิดเป็นบทบัญญัติที่ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญ มาตรา ๓๙ วรรคสอง
ที่ว่า “ในคดีอาญา ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจำาเลยไม่มีความผิด” จึงควรทบทวนบทบัญญัติ
ในเรื่องนี้
๕.๘ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลฯ และคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิต ตามพระราชบัญญัติ
การประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตฯ
มีอำานาจหน้าที่เป็นหน่วยกำากับผู้ควบคุมข้อมูลที่เป็นภาคเอกชนด้วยกัน จึงควรมี
องค์ประกอบที่ใกล้เคียงกัน แต่ทั้งนี้พบว่า บทบัญญัติของกฎหมายสองฉบับนี้ได้กำาหนดองค์ประกอบ
ของคณะกรรมการไว้ต่างกัน กล่าวคือ ประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลบัตรเครดิต คือ ผู้ว่าการ
ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นผู้บริหารหน่วยปฏิบัติ ส่วนประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคลเป็นรัฐมนตรี โดยเป็นผู้บริหารระดับนโยบาย หรือระดับประเทศซึ่งเห็นว่าการให้รัฐมนตรี
เป็นประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นกรณีที่ไม่จำาเป็นและอาจทำาให้การบังคับหรือ
การปฏิบัติตามกฎหมายนี้ล่าช้า ดังนั้น คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคล จึงควรมีองค์ประกอบ
ที่สอดคล้องกับลักษณะอำานาจหน้าที่และการปฏิบัติการ นอกจากนี้ ควรกำาหนดในร่างพระราชบัญญัติ
ดังกล่าวว่า การแต่งตั้งคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลควรคำานึงถึงสัดส่วนหญิงและชายด้วย
๖. ข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
จากการศึกษาดังกล่าวและความเห็นของคณะอนุกรรมการฯ เห็นควรมีข้อเสนอแนะนโยบายและ
ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน ดังนี้
๖.๑ ข้อเสนอแนะนโยบาย
๖.๑.๑ โดยที่พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการฯ มีเจตนารมณ์เพื่อให้ประชาชน
ได้รับและมีสิทธิได้รู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ โดยมีข้อยกเว้นอันไม่ต้องเปิดเผยที่แจ้งชัดและจำากัด
เฉพาะข้อมูลข่าวสารที่หากเปิดเผยแล้วจะเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติหรือต่อประโยชน์ที่สำาคัญ
ของเอกชน ส่วนร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ มีเจตนารมณ์เพื่อให้มีกฎหมายคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการทั่วไป เพื่อคุ้มครองบุคคลจากการถูกละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล โดยเฉพาะ
การนำาข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูล