Page 276 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 276
274 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
๕.๑ เหตุผลของการประกาศใช้พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารราชการฯ
คือ ในระบอบประชาธิปไตย การให้ประชาชนมีโอกาสกว้างขวางในการได้รับข้อมูล
ข่าวสารเกี่ยวกับการดำาเนินการต่างๆ ของรัฐเป็นสิ่งจำาเป็น เพื่อที่ประชาชนจะสามารถแสดงความ
คิดเห็นและใช้สิทธิทางการเมืองได้โดยถูกต้องกับความเป็นจริง อันเป็นการส่งเสริมให้มีความเป็น
รัฐบาลโดยประชาชนมากยิ่งขึ้น สมควรกำาหนดให้ประชาชนมีสิทธิได้รู้ข้อมูลข่าวสารของราชการ
โดยมีข้อยกเว้นอันไม่ต้องเปิดเผยที่แจ้งชัดและจำากัดเฉพาะข้อมูลข่าวสารที่หากเปิดเผยแล้วจะเกิด
๒๒๓
ความเสียหายต่อประเทศชาติหรือต่อประโยชน์ที่สำาคัญของเอกชน ส่วนเหตุผลของการจัดทำา
ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ คือ เนื่องจากปัจจุบันมีการล่วงละเมิดข้อมูลส่วนบุคคล
เป็นจำานวนมาก โดยเฉพาะการนำาข้อมูลส่วนบุคคลไปแสวงหาประโยชน์หรือเปิดเผยโดยไม่ได้รับ
ความยินยอมจากบุคคล ซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลจนสร้างความเดือดร้อนรำาคาญหรือความเสียหายให้แก่
บุคคลดังกล่าว แม้ว่าจะได้มีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในบางเรื่อง แต่ยังไม่มีการคุ้มครอง
ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการทั่วไป และโดยที่มาตรา ๓๕ วรรคสาม และมาตรา ๕๖ ของรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้บุคคลย่อมมีสิทธิได้รับความคุ้มครองจากการแสวงหาประโยชน์
โดยมิชอบจากข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับตน และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สมควรกำาหนดให้มี
๒๒๔
กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นการทั่วไป ดังนั้น สำานักนายกรัฐมนตรี โดย
สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ ซึ่งรับผิดชอบกฎหมายทั้งสองฉบับจึงควรให้ความ
สำาคัญโดยมุ่งทำาความเข้าใจและเผยแพร่หลักการดังกล่าวให้สาธารณะได้รับทราบด้วย
๕.๒ แนวคิดของร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
คือ เพื่อเป็นกฎหมายกลางในการกำาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการคุ้มครองข้อมูล
ส่วนบุคคล จึงอาจนำาหลักการเป็นกฎหมายกลางของพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง
พ.ศ. ๒๕๓๙ มาใช้ ซึ่งมาตรา ๓ บัญญัติเป็นหลักการว่า วิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามกฎหมาย
ต่างๆ ให้เป็นไปตามที่กำาหนดในพระราชบัญญัตินี้ เว้นแต่กฎหมายนั้นมีหลักเกณฑ์ที่ประกันความ
เป็นธรรม หรือมีมาตรการในการปฏิบัติราชการไม่ต่ำากว่าหลักเกณฑ์ที่กำาหนดในพระราชบัญญัตินี้
๕.๓ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ
มาตรา ๕ วรรคท้าย ซึ่งบัญญัติว่า “การยกเว้นไม่ให้นำาบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้
มาใช้บังคับแก่ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลในลักษณะใดหรือกิจการใดให้ตราเป็นพระราชกฤษฎีกา
ตามข้อเสนอของคณะกรรมการ” นั้น เป็นการใช้กฎหมายที่มีสถานะทางกฎหมายลำาดับรองมายกเว้น
กฎหมายที่มีสถานะทางกฎหมายลำาดับสูงกว่า จึงไม่สอดคล้องกับหลักนิติธรรม (Rule of Law)
๒๒๓ พระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ หมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติ
๒๒๔ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. .... บันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติ
คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. ....