Page 284 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 284

282    ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                  ซึ่งมีโทษจำาคุกและปรับ พระราชบัญญัติว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ฯ ซึ่งมีโทษจำาคุกและปรับ

                  โดยให้เปลี่ยนจากมาตรการลงโทษทางอาญา เป็นมาตรการลงโทษปรับทางปกครองแทน ทั้งยัง
                  สอดคล้องกับหลักการว่าด้วยกระบวนการยุติธรรมทางเลือกด้วย

                             ๖.๒.๕ คณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร

                  ของราชการ) สำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรทบทวนร่าง
                  พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ มาตรา ๗ องค์ประกอบคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูล

                  ส่วนบุคคล โดยให้เทียบเคียงได้กับองค์ประกอบของคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต ตาม
                  พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิตฯ ซึ่งประธานคณะกรรมการเป็นผู้บริหารของหน่วย

                  ปฏิบัติเท่านั้น การให้ประธานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งเป็นตำาแหน่งรัฐมนตรีจึงอาจ
                  ไม่จำาเป็นและทำาให้ล่าช้า และเนื่องจากคณะกรรมการทั้งสองคณะเป็นหน่วยกำากับผู้ควบคุมข้อมูล

                  ที่เป็นภาคเอกชนด้วยกัน จึงควรมีลักษณะที่ใกล้เคียงกันและควรกำาหนดให้ชัดเจนว่าการแต่งตั้ง
                  คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลนั้นควรคำานึงสัดส่วนของหญิงและชาย


                             ๖.๒.๖ คณะรัฐมนตรี โดยสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร
                  ของราชการ) สำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ควรทบทวนร่าง

                  พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฯ มาตรา ๕๐ วรรคหนึ่ง ให้มีเครื่องหมายรับรองมาตรฐาน
                  การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้รับใบรับรองจากสำานักงานมีสิทธิ

                  ใช้หรือแสดงเครื่องหมายดังกล่าว โดยควรเพิ่มเติมบทบัญญัติว่า รวมทั้งอาจเพิกถอนหรือระงับหรือ
                  พักใช้เครื่องหมายรับรองมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล สำาหรับผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล

                  ที่เคยได้รับเครื่องหมายรับรองมาตรฐานแล้ว แต่ต่อมาไม่อาจรักษามาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล
                  ส่วนบุคคลในความรับผิดชอบได้

                         สำาหรับความเห็นของรัฐบาลและหน่วยงานของรัฐที่มีอำานาจหน้าที่ในเรื่องนี้ สำานักเลขาธิการ

                  คณะรัฐมนตรีได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ นร ๐๕๐๕/๒๒๑๗๐ ลงวันที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ แจ้งว่า
                  รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้

                  สำานักงานปลัดสำานักนายกรัฐมนตรี (สำานักงานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสาร) พิจารณาร่วมกับ
                  กระทรวงการคลัง (ธนาคารแห่งประเทศไทย) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์

                  กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำานักงาน
                  คณะกรรมการกฤษฎีกา สำานักงานตำารวจแห่งชาติ สำานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง

                  กิจการโทรทัศน์และกิจการคมนาคมแห่งชาติ แพทยสภา และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง จัดทำารายงาน
                  ผลการพิจารณาหรือผลการดำาเนินงานเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วแจ้งผลการพิจารณาหรือ

                  ผลการดำาเนินการเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อไป เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและ
                  มีมติแล้วสำานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ

                  สิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบ
   279   280   281   282   283   284   285   286   287   288   289