Page 200 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 200
198 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
๓) การควบคุมตัว
จำานวนวันที่ถูกควบคุมตัว มาตรา ๑๒ กำาหนดว่า รวมแล้วต้องไม่เกินสามสิบวัน
หากจำาเป็นต้องควบคุมตัวต่อให้ดำาเนินการตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๘๗ วรรคหก กำาหนดให้ความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำาคุก
อย่างสูงตั้งแต่สิบปีขึ้นไป จะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็ตาม ศาลมีอำานาจสั่งขังหลายครั้งติดๆ กันได้
แต่ครั้งหนึ่งต้องไม่เกินสิบสองวัน และรวมกันทั้งหมดต้องไม่เกินแปดสิบสี่วัน เมื่อระยะเวลาสูงสุด
ในการควบคุมตัวตามที่พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ กำาหนด คือ
สามสิบวัน และระยะเวลาสูงสุดในการควบคุมตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา คือ
แปดสิบสี่วัน เมื่อรวมระยะเวลาทั้งสองเข้าด้วยกันก็เท่ากับว่าผู้ต้องสงสัยอาจถูกควบคุมตัวนาน
๑๔๙
ถึงเกือบสี่เดือน และในระยะเวลาสามสิบวันแรกที่ถูกควบคุมตัวโดยอาศัยอำานาจตามพระราช-
กำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ บุคคลที่ถูกจับกุมและควบคุมตัวไม่มีความชัดเจน
ว่าอยู่ในสถานะของผู้ต้องหาหรือไม่ ถ้าไม่อยู่ในสถานะของผู้ต้องหาสิทธิในกระบวนการยุติธรรม
ทางอาญาที่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ รับรองไว้อาจไม่ถูกนำามาใช้กับ
บุคคลเหล่านี้ เช่น สิทธิในการมีทนายความ สิทธิที่จะได้รับการแจ้งข้อหา สิทธิที่จะได้รับการแจ้งว่า
ถ้อยคำาที่ให้อาจใช้เป็นพยานหลักฐานพิสูจน์ความผิดของตนได้ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความ
อาญาจึงควรนำามาใช้ในทันที เมื่อบุคคลใดต้องถูกจับและควบคุมตัวตามพระราชกำาหนดการบริหาร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมตัวเด็ก เยาวชน ผู้เยาว์ สตรี หรือบุคคลใด
โดยไม่ต้องรอให้ระยะเวลาสามสิบวันที่ถูกควบคุมตัวตามพระราชกำาหนดฯ ผ่านพ้นไปก่อน
๔) องค์กรที่มีอำานาจควบคุมตรวจสอบการกระทำาของฝ่ายปกครองตาม
พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ
มาตรา ๑๖ แห่งพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.
๒๕๔๘ บัญญัติว่า “ข้อกำาหนด ประกาศ คำาสั่ง หรือการกระทำาตามพระราชกำาหนดนี้ไม่อยู่ในบังคับ
ของกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาลปกครองและ
วิธีพิจารณาคดีปกครอง”
ซึ่งบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวให้อำานาจฝ่ายบริหารหรือฝ่ายปกครองที่จะไม่ต้อง
ดำาเนินการตามหลักเกณฑ์ที่กำาหนดไว้ในพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙
และในขณะเดียวกันบทบัญญัติกฎหมายดังกล่าวได้จำากัดอำานาจศาลปกครองในการเข้าไปตรวจสอบ
การใช้อำานาจของฝ่ายบริหารหรือฝ่ายปกครองที่ได้กระทำาในระหว่างที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
๑๔๙ ปิยบุตร แสงกนกกุล, บทวิเคราะห์ พ.ร.ก. การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ออนไลน์),
๑๘ กันยายน ๒๕๕๕.