Page 197 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 197

195
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                     มาตรา ๙ (๑)ประกอบมาตรา ๑๕ ทวิ แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ให้รวมถึงการตรวจพิสูจน์

                     สารพันธุกรรม (DNA) ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน  รวมทั้งเป็น
                     การตีความที่เกินกรอบวัตถุประสงค์ของกฎหมาย



                           ๖.๒   ด้านกฎหมาย


                                ๖.๒.๑  พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗

                                ๑)  การกำาหนดเงื่อนไขการบังคับใช้
                                    เนื่องจากมาตรา ๒ แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ เป็นบทบัญญัติที่ให้อำานาจ

                     ในการประกาศกฎอัยการศึกไว้กว้างขวางมากโดยกำาหนดว่า “เมื่อเวลามีเหตุอันจำาเป็นเพื่อรักษา
                     ความเรียบร้อยปราศจากภัยซึ่งจะมีมาจากภายนอกหรือภายในราชอาณาจักรแล้ว  จะได้มีประกาศ

                     พระบรมราชโองการให้ใช้กฎอัยการศึกทุกมาตราหรือแต่บางมาตราหรือข้อความส่วนใดส่วนหนึ่ง
                     ของมาตรา ตลอดจนการกำาหนดเงื่อนไขแห่งการใช้บทบัญญัตินั้นบังคับในส่วนหนึ่งส่วนใดของ

                     ราชอาณาจักรหรือตลอดทั่วราชอาณาจักร ...”  ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวไม่มีเงื่อนไขกำาหนดแน่นอนว่า
                     จะมีการประกาศกฎอัยการศึกได้เมื่อใด และตอนท้ายมาตรา ๒ ยังกำาหนดด้วยว่า “บรรดาข้อความ

                     ในพระราชบัญญัติหรือบทกฎหมายใดๆ ซึ่งขัดกับความของกฎอัยการศึกที่ให้ใช้บังคับต้องระงับและ
                     ใช้บทบัญญัติของกฎอัยการศึกที่ให้ใช้บังคับนั้นแทน” มีผลทำาให้กฎหมายอื่นหมดสภาพการบังคับใช้

                     ซึ่งไม่ถูกต้องตามหลักนิติรัฐและนิติธรรม สมควรกำาหนดเงื่อนไขให้มีความชัดเจน โดยเงื่อนไขในการใช้
                     บทบัญญัติในกฎอัยการศึกนั้น ต้องเป็นกรณีที่เกิดสงคราม หรือจลาจลเท่านั้น และประการสำาคัญ

                     ต้องไม่นำามาใช้กับรัฐประหาร รวมทั้งต้องกำาหนดระยะเวลาในการประกาศใช้ด้วย

                                ๒)  กลไกพิจารณากลั่นกรองการประกาศใช้กฎอัยการศึก

                                    เนื่องจากการประกาศใช้กฎอัยการศึกมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของ
                     ประชาชนเป็นอย่างมาก และปัจจุบันการสื่อสารมีความสะดวกรวดเร็วแตกต่างจากสมัยก่อน

                     ไม่สมควรกำาหนดให้อำานาจผู้บังคับบัญชาทหารซึ่งมีกำาลังอยู่ใต้บังคับไม่น้อยกว่าหนึ่งกองพัน หรือ
                     เป็นผู้บังคับบัญชาในป้อมหรือที่มั่นอย่างใดๆ ของทหารมีอำานาจประกาศใช้กฎอัยการศึกได้ต่อไป

                     การประกาศใช้กฎอัยการศึกตามมาตรา ๔ แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ จึงควรต้องมีการ
                     กลั่นกรองโดยผู้บังคับบัญชาที่มีอำานาจเหนือขึ้นไป โดยหากจะประกาศใช้กฎอัยการศึกให้มีการเสนอ

                     จากผู้บังคับบัญชาทหารที่อยู่ในพื้นที่ต่อผู้บัญชาการเหล่าทัพ (ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการ
                     ทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ แล้วแต่กรณี) เพื่อขอความเห็นชอบ

                                ๓)  การเยียวยาความเสียหาย

                                    พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ เป็นกฎหมายที่ให้อำานาจเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหาร
                     ในการรักษาความสงบเรียบร้อย โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารมีอำานาจหลายประการในการดำาเนินการ
   192   193   194   195   196   197   198   199   200   201   202