Page 199 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 199

197
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                                    การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน ให้ใช้บังคับตลอดระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรี

                     กำาหนด แต่ต้องไม่เกินสามเดือนนับแต่วันประกาศ ในกรณีที่มีความจำาเป็นต้องขยายระยะเวลา
                     ให้นายกรัฐมนตรีมีอำานาจประกาศขยายระยะเวลาการใช้บังคับออกไปอีกเป็นคราวๆ คราวละไม่เกิน

                     สามเดือน โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี  เท่ากับว่า พระราชกำาหนดการบริหารราชการใน
                     สถานการณ์ฉุกเฉินฯ อนุญาตให้นายกรัฐมนตรีต่อเวลาประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปได้โดยไม่มีระยะ

                     เวลาจำากัด หากคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบ  ดังนั้น จึงเห็นควรกำาหนดอำานาจของนายกรัฐมนตรี
                     ในการขยายระยะเวลาในการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน

                                ๒)  การขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัว
                                    เมื่อพนักงานเจ้าหน้าที่ได้รับอนุญาตจากศาลให้จับกุมและควบคุมตัวบุคคลที่

                     ต้องสงสัยตามประกาศในมาตรา ๑๑ (๑) แล้ว  พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำานาจจับกุมและควบคุมตัวได้

                     ไม่เกินเจ็ดวัน กรณีที่มีความจำาเป็นต้องจับกุมและควบคุมตัวต่อเพื่อประโยชน์ในการแก้ไขสถานการณ์
                     ฉุกเฉิน  พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องร้องขอต่อศาลเพื่อขยายระยะเวลาการควบคุมตัวต่อ ซึ่งขอควบคุมตัว
                     ได้อีกคราวละเจ็ดวัน ตามมาตรา ๑๒ แห่งพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ

                     แต่รวมแล้วต้องไม่เกิน ๓๐ วัน เมื่อครบกำาหนดแล้วหากจำาเป็นต้องควบคุมตัวต่อให้ดำาเนินการ

                     ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
                                    ตามระเบียบกองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค ๔ ว่าด้วยวิธีปฏิบัติงาน
                     ของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์

                     ฉุกเฉินฯ ข้อ ๓.๕ กำาหนดให้เจ้าหน้าที่มีอำานาจควบคุมผู้ถูกจับได้ไม่เกินเจ็ดวันนับแต่จับกุมตัวได้

                     แต่เมื่อต้องการควบคุมตัวต่อไป ต้องยื่นคำาร้องขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัวต่อศาลตามระเบียบ
                     กองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔ ฯ ข้อ ๓.๗ วรรคแรก ซึ่งการร้องขอขยายเวลาควบคุม
                     ไม่ต้องนำาตัวผู้ถูกควบคุมตัวมาศาล แต่ต้องแสดงให้ศาลเห็นถึงเหตุจำาเป็นที่ต้องขอขยายเวลาควบคุม

                     เพื่อประโยชน์ในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ตามระเบียบกองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน

                     ภาค ๔ ฯ ข้อ ๓.๗ วรรคสอง ซึ่งข้อกำาหนดดังกล่าวขัดต่อหลักการพื้นฐานในการขอขยายระยะเวลา
                     การควบคุมตัวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เป็นการปิดโอกาสผู้ถูกควบคุมตัวที่
                     จะแถลงต่อศาลว่าจะคัดค้านคำาร้องขอขยายระยะเวลาการควบคุมตัวหรือไม่  และไม่สามารถแสดง

                     ข้อเท็จจริงต่อศาล  โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีผู้ถูกควบคุมตัวถูกซ้อมทรมาน รวมทั้งไม่สามารถแต่งตั้ง

                     ทนายความเพื่อแถลงข้อคัดค้านคำาร้องขอขยายระยะเวลาควบคุมตัวและซักถามพยานอีกฝ่ายหนึ่ง
                     ตามมาตรา ๘๗ วรรคแปด แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และขัดกับกติการะหว่าง
                     ประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเข้าเป็นภาคี เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม

                     ๒๕๓๙ ข้อ ๑๔ ข้อย่อย ที่ ๓ (ข) ที่กำาหนดว่า  “ในการพิจารณาคดีอาญา บุคคลทุกคนซึ่งต้องหาว่า

                     กระทำาผิดย่อมมีสิทธิที่จะได้รับหลักประกันขั้นต่ำาดังต่อไปนี้โดยเสมอภาค  (ข) สิทธิที่จะมีเวลาและ
                     ได้รับความสะดวกเพียงพอแก่การเตรียมการเพื่อต่อสู้คดีและติดต่อกับทนายความที่ตนเลือกได้”
   194   195   196   197   198   199   200   201   202   203   204