Page 194 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 194

192   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                  ความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ต้องพิจารณาเหตุผลและความจำาเป็นรวมทั้งเงื่อนไขในการบังคับ

                  ใช้กฎหมายดังกล่าว แต่ที่ผ่านมามีการใช้กฎหมายความมั่นคงซ้ำาซ้อนกัน เช่น พระราชบัญญัติ
                  กฎอัยการศึกฯ และพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ มีการบังคับใช้ใน

                  พื้นที่จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำาเภอแม่ลาน และมีการบังคับใช้
                  พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ

                  ในพื้นที่อำาเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี ทำาให้ประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวเกิดความสับสน
                             ดังนั้น เมื่อมีการประกาศใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับใดแล้วหากสถานการณ์ดีขึ้น

                  สมควรยกเลิกการใช้กฎหมายความมั่นคงฉบับดังกล่าว โดยอาจเปลี่ยนไปใช้กฎหมายความมั่นคง
                  ที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนน้อยกว่า เช่น ในบางพื้นที่ที่มีการประกาศใช้พระราช

                  กำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ แล้ว แต่เมื่อสถานการณ์ดีขึ้นสมควรลดระดับ
                  มาใช้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ ซึ่งเป็นกฎหมายที่กระทบต่อสิทธิ

                  และเสรีภาพของประชาชนน้อยกว่าและมีบทบัญญัติมาตรา ๒๑ ซึ่งสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
                  ในพื้นที่ และเป็นการบังคับใช้กฎหมายตามภาวะวิสัยที่ช่วยสร้างความปรองดองของคนในชาติ

                  เพื่อให้ในพื้นที่ดังกล่าวสามารถนำามาตรา ๒๑ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใน
                  ราชอาณาจักรฯ และประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาใช้ได้

                             ๒) การนำากฎหมายความมั่นคงไปใช้กับการชุมนุม ซึ่งโดยหลักการกฎหมายความ
                  มั่นคงไม่สามารถนำามาใช้กับการชุมนุมได้ เนื่องจากเป็นสิทธิและเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่ง

                  ราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๖๓ ดังนั้น เมื่อมีการชุมนุมขึ้นต้องนำากฎหมายที่ใช้
                  ในภาวะปกติมาใช้บังคับก่อน เช่น ประมวลกฎหมายอาญา พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒

                  พระราชบัญญัติทางหลวง พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติว่าด้วยการรักษาความสะอาดและความ
                  เป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. ๒๕๓๕ พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่อง

                  ขยายเสียง พ.ศ. ๒๔๙๓ เป็นต้น  รวมทั้งหากเป็นการชุมนุมอื่นที่ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมืองก็อาจ
                  นำาพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ มาบังคับใช้ได้ด้วย เว้นแต่การชุมนุม

                  โดยสงบแปรเปลี่ยนไปสู่สถานการณ์วิกฤติ หรือการจลาจลที่จะกระทบต่อความมั่นคง หรือก่อให้เกิด
                  ความไม่สงบเรียบร้อยอย่างร้ายแรง จึงอาจนำากฎหมายความมั่นคงมาบังคับใช้เท่าที่จำาเป็นเท่านั้น

                  อย่างไรก็ตาม ต้องมีการกำาหนดกรอบการใช้อำานาจของเจ้าหน้าที่ที่ชัดเจน และมีการปฏิบัติที่ไม่เป็น
                  การกระทำาอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน โดยเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่จะกระทบต่อความมั่นคงต้อง

                  ประกาศใช้กฎหมายที่มีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนน้อยที่สุดก่อน คือ พระราชบัญญัติ
                  การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ  แต่เมื่อบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวแล้วยังไม่สามารถ

                  ทำาให้เหตุการณ์เข้าสู่สภาวะปกติได้  จึงจะบังคับใช้พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์
                  ฉุกเฉินฯ  อย่างไรก็ตาม เมื่อเหตุการณ์ความรุนแรงลดลง รัฐต้องพิจารณาลดระดับในการบังคับใช้

                  กฎหมายความมั่นคงจากพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ มาเป็นพระราช-
                  บัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรฯ หรือยกเลิกการใช้พระราชกำาหนดการบริหาร
   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198   199