Page 193 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 193

191
                                                   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                                                   ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                           ๖.๑  ด้านนโยบาย

                                กฎหมายความมั่นคงเป็นกฎหมายที่กระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ที่ผ่านมา

                     เมื่อมีเหตุการณ์ความรุนแรงรัฐบาลจะนำากฎหมายความมั่นคงมาใช้ ซึ่งโดยหลักการการจะใช้กฎหมาย
                     ดังกล่าวได้ต้องมีความจำาเป็นอย่างแท้จริง  และการใช้กฎหมายความมั่นคงแต่ละฉบับมีหลักเกณฑ์

                     กำาหนดไว้แตกต่างกัน โดยการประกาศใช้พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
                     พ.ศ. ๒๕๔๘ เป็นอำานาจของนายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี  การใช้อำานาจตาม

                     พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑  คณะรัฐมนตรีจะมีมติ
                     มอบหมายให้กองอำานวยการรักษาความมั่นคงเป็นผู้รับผิดชอบในการป้องกัน ปราบปราม ระงับ ยับยั้ง

                     และแก้ไข หรือบรรเทาเหตุการณ์ที่กระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร  ส่วนการประกาศ
                     กฎอัยการศึกตามพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พระพุทธศักราช ๒๔๕๗ เป็นอำานาจของผู้บังคับบัญชา

                     ทหาร ซึ่งมีกำาลังอยู่ใต้บังคับไม่น้อยกว่าหนึ่งกองพัน หรือเป็นผู้บังคับบัญชาในป้อม หรือที่มั่นอย่างใดๆ
                     ของทหารในการประกาศ  เฉพาะในเขตอำานาจหน้าที่ของกองทหารนั้นได้เมื่อมีสงครามหรือจลาจลขึ้น

                     รวมทั้ง เมื่อเวลามีเหตุอันจำาเป็นเพื่อรักษาความเรียบร้อย จะได้มีประกาศพระบรมราชโองการ
                     ให้ใช้กฎอัยการศึก ดังนั้น การจะนำากฎหมายความมั่นคงฉบับใดมาใช้บังคับต้องพิจารณาเหตุผล

                     ความจำาเป็น หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ที่กฎหมายแต่ละฉบับกำาหนดไว้ โดยเฉพาะผลกระทบต่อสิทธิ
                     และเสรีภาพของประชาชน และหากผู้นั้นได้รับความเสียหายให้ได้รับการชดเชยค่าเสียหาย

                     ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำาหนด คณะอนุกรรมการฯ จึงเห็นควรมีข้อเสนอ ดังนี้

                                ๖.๑.๑  การเลิกใช้กฎอัยการศึก

                                เจตนารมณ์ของการใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ก็เพื่อรักษาความเรียบร้อยของรัฐ

                     ให้ปราศจากภัย โดยเฉพาะเมื่อเกิดวิกฤติร้ายแรง คือ เกิดสงครามหรือการจลาจลขึ้น บทบัญญัติ
                     ของพระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ จึงเป็นบทบัญญัติที่มีความเข้มงวดสูง  ดังนั้น เมื่อมีการประกาศใช้

                     พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ จึงมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนอย่างมาก  ในปัจจุบัน
                     มีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ในหลายพื้นที่  ซึ่งบางพื้นที่ไม่มีความรุนแรงถึงขนาด

                     ที่ควรจะต้องมีการประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ  การประกาศจึงไม่ชอบด้วยหลักการ
                     บังคับใช้กฎหมายดังกล่าว จึงควรมีการประกาศยกเลิกการบังคับใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ

                     ในทุกพื้นที่ และพิจารณาประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ ใหม่เฉพาะในบางพื้นที่ที่มี
                     ความจำาเป็นเท่านั้น เพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงและประกาศยกเลิกทันทีที่สิ้นสุดความจำาเป็น


                                ๖.๑.๒  การลดระดับการใช้กฎหมายความมั่นคง

                                ๑) กฎหมายความมั่นคงเป็นกฎหมายที่จำากัดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ดังนั้น
                     การใช้กฎหมายดังกล่าวต้องมีเหตุผลและความจำาเป็น ซึ่งการจะบังคับใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ
                     หรือพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ หรือพระราชบัญญัติการรักษา
   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198