Page 177 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 177
175
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
เช่น การตรวจน้ำาลาย การขูดกระพุ้งแก้ม เป็นต้น อยู่ในความหมายของการตรวจค้นตัวบุคคลหรือไม่
การเก็บพยานหลักฐานเหล่านี้สามารถทำาได้ตามมาตรา ๙ หรือไม่ ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ให้ความเห็นดังนี้
(๑) กระบวนก�รนำ�ตัวผู้กระทำ�คว�มผิดม�ลงโทษต้องอยู่ในกรอบนิติธรรม จาก
การตรวจสอบพบว่า มีการตรวจพิสูจน์บุคคลหรือชายไทยทุกคนในหมู่บ้านบางแห่งในสามจังหวัด
ชายแดนใต้โดยวิธีทางวิทยาศาสตร์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๓๑/๑
ซึ่งเห็นว่ามีความไม่เหมาะสม
(๒) ก�รตรวจดีเอ็นเอ เป็นไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา และ
ผู้ถูกตรวจต้องยินยอม สหรัฐอเมริกาศึกษาวิจัยว่า ถ้ามีความจำาเป็นต้องเก็บดีเอ็นเอไม่ถือว่า
ผิดกฎหมาย ทุกคนจะถูกเก็บดีเอ็นเอเพื่อป้องปรามอาชญากรรมในอนาคต โดยเริ่มเก็บดีเอ็นเอจาก
ผู้ต้องขังทุกคน เพื่อป้องกันโรคเอดส์ และเก็บไว้เป็นพยานหลักฐาน ส่วนในสถานการณ์ภาคใต้นั้น
หากเก็บดีเอ็นเอทุกคนจะเป็นการป้องปรามอาชญากรรมได้ เหมือนเช่นการเก็บลายนิ้วมือที่ไม่ถือ
ว่ากระทบต่อสิทธิของประชาชนถือเป็นการรักษาความมั่นคงอย่างหนึ่ง อย่างไรก็ตาม หากจะ
ออกกฎหมายว่าด้วยการตรวจดีเอ็นเอก็ควรพิจารณาให้รอบคอบถึงความเหมาะสมด้านสิทธิมนุษยชน
และผลกระทบของประชาชนด้วย
(๓) ก�รปิดล้อมตรวจค้น ซึ่งประกอบด้วย ๓ ฝ่าย คือ ฝ่ายทหาร ตำารวจ และ
ฝ่ายปกครอง โดยก่อนการไปเก็บดีเอ็นเอเจ้าหน้าที่ต้องมีเหตุอันควรสงสัยก่อน มีข้อมูลข่าวกรองว่า
ผู้กระทำาผิดอยู่ในพื้นที่นั้น และมีการขอความยินยอมจากผู้นำาในหมู่บ้านและผู้ที่จะถูกตรวจ การเก็บ
ดีเอ็นเอ จะเป็นหน้าที่ของตำารวจด้านนิติวิทยาศาสตร์ ทหารมีหน้าที่ปิดล้อมตรวจค้น นอกจากนี้
ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาระบุว่า หากผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายไม่ยินยอมหรือขัดขวาง
ไม่ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องยินยอมให้ตรวจดีเอ็นเอ โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานว่าข้อเท็จจริงเป็นไป
ตามผลที่ตรวจพิสูจน์ที่หากตรวจแล้วเป็นผลเสียต่อผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายนั้น ๑๔๒ ส่วนกรณี
ข้อร้องเรียนมีข้อสังเกตจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่พบว่าประชาชนไม่ได้มีการร้องเรียน หรือมีการ
ร้องเรียนเท็จประมาณแปดสิบเปอร์เซ็นต์ หรือมีการแอบอ้างชื่อผู้ร้องเรียน
๑๔๒ ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๓๑/๑ วรรคสอง ในกรณีความผิดอาญาที่มีอัตราโทษจำาคุก
อย่างสูงไม่เกินสามปี หากการตรวจพิสูจน์ตามวรรคหนึ่ง จำาเป็นต้องตรวจเก็บตัวอย่างเลือด เนื้อเยื่อ ผิวหนัง
เส้นผมหรือขน น้ำาลาย ปัสสาวะ อุจจาระ สารคัดหลั่ง สารพันธุกรรม หรือส่วนประกอบของร่างกายจาก
ผู้ต้องหา ผู้เสียหาย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ให้พนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบมีอำานาจให้แพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ
ดำาเนินการตรวจดังกล่าวได้ แต่ต้องกระทำาเพียงเท่าที่จำาเป็นและสมควรโดยใช้วิธีการที่ก่อให้เกิดความเจ็บปวด
น้อยที่สุดเท่าที่จะกระทำาได้ ทั้งจะต้องไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายหรืออนามัยของบุคคลนั้น และผู้ต้องหา
ผู้เสียหาย หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องต้องให้ความยินยอม หากผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายไม่ยินยอมโดยไม่มีเหตุ
อันสมควร หรือผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายกระทำาการป้องปัดขัดขวางมิให้บุคคลที่เกี่ยวข้องให้ความยินยอม
โดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้เบื้องต้นว่า ข้อเท็จจริงเป็นไปตามผลการตรวจพิสูจน์ที่หากได้ตรวจ
พิสูจน์แล้วจะเป็นผลเสียต่อผู้ต้องหาหรือผู้เสียหายนั้นแล้วแต่กรณี