Page 180 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 180
178 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
๓) อำานาจของนายกรัฐมนตรีในการขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์
๑๔๓
ฉุกเฉิน ตามมาตรา ๕ ควรมีข้อจำากัดอย่างไร หรือไม่ ผู้เข้าร่วมสัมมนาได้ให้ความเห็น ดังนี้
(๑) ม�ตร� ๕ เป็นการใช้อำานาจของนายกรัฐมนตรีอย่างไม่มีขีดจำากัด
ในต่างประเทศ เช่น สวีเดน ฝรั่งเศส หลังจากที่ขยายระยะเวลาครั้งที่สองก็ต้องขอความเห็นชอบ
จากประธานรัฐสภาหรือผ่านประธานศาลต่างๆ ทำาให้ไม่มีการใช้อำานาจที่ไม่มีขีดจำากัด
(๒) ก�รขย�ยระยะเวล� ประกาศใช้พระราชบัญญัติกฎอัยการศึกฯ และ
พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ในบางพื้นที่ไปเรื่อยๆ นั้น ต้องพิจารณา
ถึงสาเหตุและความจำาเป็นด้วย การระงับการขยายระยะเวลาอาจใช้กระบวนการตุลาการ
อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาวิจัยต่อไปถึงผลดีผลเสียของการบังคับใช้กฎหมายนั้น รวมถึงศึกษาตัวอย่าง
กฎหมายต่างประเทศ
๔) ประเด็น เนื่องจากระเบียบกองอำานวยการรักษาความมั่นคงภายใน ภาค ๔
ว่าด้วยวิธีปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา ๑๑ แห่งพระราชกำาหนดการบริหาร
ราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ข้อ ๓.๗ วรรคสอง กำาหนดว่า การร้องขยายเวลาควบคุม
ไม่ต้องนำาตัวผู้ถูกควบคุมมาศาล อย่างไรก็ตาม การควบคุมตัวกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพเป็น
อย่างมาก กรณีมีความจำาเป็นต้องขอขยายระยะเวลาควบคุมตัวตามมาตรา ๑๑ (๑) ซึ่งมีการประกาศ
ให้สถานการณ์ฉุกเฉินนั้นเป็นสถานการณ์ที่มีความร้ายแรง จึงควรนำาตัวผู้ถูกควบคุมมาศาลทุกกรณี
เพื่อให้ทุกฝ่ายได้แสดงให้ศาลเห็นว่ามีเหตุผลและความจำาเป็นที่ต้องควบคุมตัวต่อไป หรือไม่ และที่ว่า
การควบคุมตามพระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ควบคุมได้ครั้งละ ๗ วัน
แต่ไม่เกิน ๓๐ วัน ทำาให้เกิดการร้องเรียนขึ้นมาว่าเหตุใดไม่นำาตัวผู้ต้องสงสัยไปยังศาลเพื่อให้ศาล
๑๔๓ พระราชกำาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘
มาตรา ๕ เมื่อปรากฏว่ามีสถานการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นและนายกรัฐมนตรีเห็นสมควรใช้กำาลังเจ้าหน้าที่
ฝ่ายปกครองหรือตำารวจ เจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือนหรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารร่วมป้องกัน แก้ไข ปราบปราม ระงับยับยั้ง
ฟื้นฟูหรือช่วยประชาชน ให้นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มีอำานาจประกาศสถานการณ์
ฉุกเฉินเพื่อบังคับใช้ทั่วราชอาณาจักรหรือในบางเขตบางท้องที่ได้ตามความจำาเป็นแห่งสถานการณ์ ในกรณีที่
ไม่อาจขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีได้ทันท่วงที นายกรัฐมนตรีอาจประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินไปก่อน
แล้วดำาเนินการให้ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีภายในสามวัน หากมิได้ดำาเนินการขอความเห็นชอบ
จากคณะรัฐมนตรีภายในเวลาที่กำาหนด หรือคณะรัฐมนตรีไม่ให้ความเห็นชอบ ให้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
ดังกล่าวเป็นอันสิ้นสุดลง
การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้บังคับตลอดระยะเวลาที่นายกรัฐมนตรี
กำาหนด แต่ต้องไม่เกินสามเดือนนับแต่วันประกาศ ในกรณีที่มีความจำาเป็นต้องขยายระยะเวลาให้
นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรีมีอำานาจประกาศขยายระยะเวลาการใช้บังคับออกไปอีก
เป็นคราวๆ คราวละไม่เกินสามเดือน