Page 170 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 170

168   ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
                  ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ  เล่ม ๑  ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗




                  มาตรการดังกล่าวจะต้องใช้โดยมีเจตจำานงที่จะทำาให้สถาบันการเมืองแห่งรัฐสามารถปฏิบัติตาม

                  ภารกิจของตนได้ภายในระยะเวลาที่จำากัดที่สุด  ทั้งนี้ โดยมีการปรึกษาหารือกับคณะตุลาการ
                  รัฐธรรมนูญ รัฐสภาเปิดสมัยประชุมได้เองในระหว่างที่มีการใช้อำานาจฉุกเฉินดังกล่าว จะมีการ

                  ยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้”  ๑๓๒
                                 ดังนั้น รัฐธรรมนูญแห่งประเทศฝรั่งเศส มาตรา ๑๖ จึงมีเงื่อนไขการใช้อำานาจ ดังนี้

                                 (๑) ต้องเป็นกรณีที่สถาบันแห่งรัฐ ความเป็นเอกราชของชาติ บูรณภาพแห่งดินแดน
                  หรือการปฏิบัติตามพันธกรณีระหว่างประเทศถูกคุกคามอย่างร้ายแรงและปัจจุบันทันด่วน

                                 (๒) การดำาเนินการตามปกติของสถาบันทางการเมืองแห่งรัฐตามรัฐธรรมนูญ
                  หยุดชะงักลง

                                 (๓) ได้มีการปรึกษาหารืออย่างเป็นทางการกับนายกรัฐมนตรี ประธานสภาทั้งสอง
                  และคณะตุลาการรัฐธรรมนูญแล้ว มาตรการดังกล่าวต้องใช้โดยมีเจตจำานงที่จะทำาให้สถาบันการเมือง

                  แห่งรัฐสามารถปฏิบัติได้ตามภารกิจของตนภายในระยะที่จำากัดที่สุด  ทั้งนี้ โดยมีการปรึกษาหารือ
                  กับคณะตุลาการรัฐธรรมนูญ

                                 (๔) ประธานาธิบดีจะต้องแถลงให้ประชาชนทราบถึงการใช้มาตรการดังกล่าว

                                 นอกจากนั้นได้มีกระบวนการควบคุมการใช้อำานาจของฝ่ายบริหารโดยการบัญญัติ
                  ไว้ว่า ในระหว่างที่มีการใช้อำานาจฉุกเฉินดังกล่าว จะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎรมิได้  มีการควบคุม
                  การใช้อำานาจโดยองค์กรอื่นที่มิใช่ฝ่ายบริหารด้วยกัน  นอกจากนั้น ในระบบกฎหมายป้องกันประเทศ

                  ของฝรั่งเศสให้อำานาจเกี่ยวกับอำานาจทางทหารโดยกฎหมายอีก ๓ ฉบับ ที่ให้อำานาจในช่วงประกาศ

                  สถานการณ์ฉุกเฉิน คือ
                                 ๑)  อำานาจในทางทหาร การเกณฑ์แรงงานและทรัพย์สิน ในรัฐกำาหนดฉบับที่ ๓
                  กรกฎาคม ค.ศ. ๑๘๗๗ (La Loi du 3 juillet 1877) แก้ไขโดยรัฐกำาหนดลงวันที่ ๗ มกราคม ๑๙๕๙

                  (L’ordonnance n° 59 du  6janvier 1959)

                                 ๒)  การจัดตั้งองค์การ โดยรัฐกำาหนดลงวันที่ ๗ มกราคม ค.ศ. ๑๙๕๙
                  (L’ordonnance n° 1959-147du 7 janvier 1959) เป็นคำาสั่งในการจัดตั้งองค์กรป้องกัน อนุญาต
                  ให้มีการควบคุม  นอกจากนั้น ได้ให้อำานาจประธานาธิบดีอย่างกว้างขวาง ในการเกณฑ์คน แรงงาน

                  บริการ สั่งระดับกำาลังสำารอง หรือกองหนุน

                                 ๓)  อำานาจยุบสมาคม โดยกฎหมายลงวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๑๙๓๖ (La Loi du
                  10 janvier 1936)  กฎหมายฉบับนี้อนุญาตให้คณะรัฐมนตรี (Conseil des Ministres) ยุบสมาคม







                  ๑๓๒  ศาสตราจารย์นันทวัฒน์  บรมานันท์, (ออนไลน์) ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๕. แหล่งที่มา http://www.pub_law net/
                       publaw/view.aspx? id=1475
   165   166   167   168   169   170   171   172   173   174   175