Page 166 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 166
164 ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
กฎเกณฑ์พิเศษขึ้นใช้ชั่วคราว เพื่อจัดการเหตุร้ายแรงในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยมีเงื่อนไขในการออก
กฎดังนี้ คือ
(๒.๑) ต้องมิใช่กรณีของการออกกฎอัยการศึก หรือเป็นการทำาลายรากฐาน
ของระบบรัฐสภาหรือเป็นการให้ยุติบทบาทของพรรคการเมือง หรือประการอื่นใดที่มีพื้นฐานอย่าง
เดียวกัน
(๒.๒) การให้อำานาจในการออกกฎในสถานการณ์ฉุกเฉินซึ่งเป็นกลไกที่มีไว้
สำาหรับจัดการเฉพาะกรณีที่เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรง และจะต้องมีความจำาเป็นเร่งด่วน
รวมทั้งต้องเป็นหนทางสุดท้ายสำาหรับจะแก้ไขปัญหาได้เท่านั้น โดยมีเงื่อนไขในการประกาศ
สถานการณ์ฉุกเฉิน ๓ ประการ โดยจะใช้อำานาจในสถานการณ์ฉุกเฉินได้ต่อเมื่อ
(๒.๒.๑) สถานการณ์ฉุกเฉินนั้นจะต้องเป็นเหตุการณ์หรือสถานการณ์
ที่เป็นภัยคุกคามให้เกิดความเสียหายอย่างร้ายแรงต่อสวัสดิภาพของมนุษย์หรือสภาพแวดล้อม
หรือความมั่นคงซึ่งได้เกิดขึ้นแล้ว กำาลังเกิดขึ้นขณะนั้น หรือกำาลังจะเกิดขึ้น
(๒.๒.๒) ต้องเป็นกรณีที่จำาเป็นจะต้องตรากฎเกณฑ์ขึ้นใช้บังคับอย่าง
เร่งด่วน โดยมีเงื่อนไขที่ว่าต้องเป็นไปเพื่อจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉินที่เกิดขึ้น ซึ่งตามอำานาจ
ธรรมดาที่มีอยู่นั้นไม่เพียงพอที่จะจัดการกับสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที
(๒.๒.๓) การออกกฎในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น จะต้องชอบด้วยหลัก
ความได้สัดส่วน และเป็นไปเพื่อแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินนั้นโดยตรง
มาตรา ๒๑ กำาหนดเงื่อนไขซึ่งต้องมีอยู่ก่อนที่สมเด็จพระราชินี (หรือรัฐมนตรีอาวุโส)
จะออกกฎในสถานการณ์ฉุกเฉิน มาตรานี้กำาหนดเงื่อนไขหลักอยู่ ๓ ประการ ได้แก่
๑) สถานการณ์ฉุกเฉินนั้นได้เกิดขึ้นแล้ว หรือกำาลังจะเกิดสถานการณ์ฉุกเฉินขึ้น
(อนุมาตรา (๒))
๒) จำาเป็นจะต้องมีการตรากฎเกณฑ์ดังกล่าวขึ้นเพื่อจัดการกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
(อนุมาตรา (๓))
๓) มีความต้องการที่จะใช้กฎเกณฑ์นั้นอย่างเร่งด่วน (อนุมาตรา (๔))
ตามความในอนุมาตรา (๕) และ (๖) นั้น ได้กำาหนดว่ากฎในสถานการณ์ฉุกเฉินนั้น
จะสามารถออกได้ต่อเมื่อกฎเกณฑ์ปกติทั่วไปไม่สามารถ หรือไม่เพียงพอที่จะจัดการกับสถานการณ์
ฉุกเฉินได้ นอกจากนี้ การออกกฎในสถานการณ์ฉุกเฉินไม่อาจห้ามหรือออกกฎเพื่อห้ามการมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการประท้วง หรือนัดหยุดงาน และไม่อาจที่จะออกกฎห้ามยกเว้นการเกณฑ์
ทหาร ไม่อาจเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกระบวนการยุติธรรม และไม่อาจกำาหนดฐานของความผิด
ขึ้นมาใหม่ได้ และจะต้องเหมาะสมสอดคล้องกับพระราชบัญญัติสิทธิมนุษยชน และกฎหมายของ EU
อีกทั้งต้องเปิดโอกาสให้มีการโต้แย้งนำาคดีขึ้นสู่ศาล ซึ่งเห็นได้ว่าการออกกฎในระบบกฎหมายของ
อังกฤษเปิดช่องที่ให้นำากฎในสถานการณ์ฉุกเฉินที่ออกโดยฝ่ายบริหารขึ้นฟ้องร้องต่อศาลได้