Page 109 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 1 ระหว่างวันที่ 1 มีนาคม 2554 - 31 ธันวาคม 2557
P. 109
107
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๑ ระหว่าง ๑ มีนาคม ๒๕๕๔ – ๓๑ ธันวาคม ๒๕๕๗
(๑) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา โดยเพิ่มนิยามคำาว่า
๖๙
“การทรมาน” และ “ความผิดฐานกระทำาทรมาน” และแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา กำาหนดให้ผู้ถูกกระทำาด้วยการทรมานสามารถยื่นคำาร้องต่อศาลเพื่อให้ระงับ เพิกถอน
การกระทำานั้น และมีสิทธิยื่นคำาร้องขอการเยียวยาความเสียหาย
(๒) แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา โดยเพิ่มคำานิยาม
การทรมานและความผิดฐานกระทำาทรมาน และแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหาย
และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำาเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๔ โดยเพิ่มความผิดฐานกระทำาทรมาน
เพื่อให้ผู้เสียหายจากความผิดฐานนี้ขอรับค่าตอบแทนได้ โดยไม่ต้องแก้ไขประมวลกฎหมายวิธี
พิจารณาความอาญา
๒.๑.๒) กระทรวงก�รต่�งประเทศ เห็นควรเร่งรัดการแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายอาญาให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ การไม่มีนิยามและฐาน
ความผิดว่าด้วยการกระทำาทรมาน ทำาให้เป็นอุปสรรคต่อความร่วมมือที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การส่งผู้ร้าย
ข้ามแดน
๒.๑.๓) สำ�นักง�นคณะกรรมก�รปฏิรูปกฎหม�ย เห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติม
ประมวลกฎหมายอาญาโดยเพิ่มนิยามคำาว่า ทรมาน และความผิดฐานทรมาน นั้นไม่เพียงพอ ควรมี
การทบทวนและแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งมีกลไกป้องกันการทรมานอื่นด้วย เช่น
การเยียวยา การป้องกันการเกิดซ้ำา การคุ้มครองพยาน การพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์
การคำานึงถึงสิทธิของผู้ถูกกระทำาทรมาน
๒.๑.๔) น�ยกุลพล พลวัน ผู้ทรงคุณวุฒิด้�นกฎหม�ย ให้ความเห็นเป็น
ลายลักษณ์อักษรว่า ประเทศไทยจำาเป็นต้องแก้ไขกฎหมายภายในให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้าน
การทรมานฯ ซึ่งสามารถทำาได้ ๒ วิธี คือ
๖๙ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มาตรา ๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้
เป็น (๑๖) ของมาตรา ๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา
“(๑๖) “การทรมาน” หมายความว่า การกระทำาใดโดยมีเจตนาให้เกิดความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมาน
อย่างร้ายแรงไม่ว่าทางร่างกายหรือจิตใจต่อบุคคลใด ซึ่งกระทำาโดยเจ้าพนักงานหรือด้วยการยุยงหรือโดย
ยินยอมหรือรู้เห็นเป็นใจของเจ้าพนักงาน หรือของบุคคลอื่นซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำาแหน่งที่ได้รับการแต่งตั้งจาก
ทางราชการ เพื่อความประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใด ต่อไปนี้
๑. ให้ได้มาซึ่งข้อสนเทศหรือคำาสารภาพจากบุคคลนั้นหรือจากบุคคลที่สาม
๒. ลงโทษบุคคลนั้นสำาหรับการกระทำาที่บุคคลนั้นหรือบุคคลที่สามได้กระทำาหรือถูกสงสัยว่าได้กระทำา
๓. ข่มขู่ให้กลัวหรือบังคับขู่เข็ญบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สาม
๔. กระทำาการด้วยประการใดๆ อันเป็นการเลือกปฏิบัติ
ทั้งนี้ ไม่รวมถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานที่เกิดจากหรืออันเป็นผลปกติจากหรืออันสืบเนื่องมาจาก
การลงโทษทั้งปวงที่ชอบด้วยกฎหมาย”