Page 64 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 64

“สงครามปราบปรามยาเสพติด” ใน พ.ศ. ๒๕๔๖ ระหว่างเดือน พฤษภาคม

            ถึง ธันวาคม ๒๕๔๖ มีรายงานว่าชุมชนชาติพันธุ์ลาหู่ถูกเจ้าหน้าที่ทหาร
            และทหารพรานควบคุมตัวโดยพลการ ถูกทรมาน ถูกสังหารนอก
                                                          ๔๔
            กระบวนการกฎหมายและและบางคนถูกบังคับให้สูญหาย   นอกจากนี้
            จากรายงานของมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ  วิธีการที่เจ้าหน้าที่ทหาร
            หรือเจ้าพนักงานของรัฐใช้ คือ การไปจับกุมตัวคนจากหมู่บ้านหรือที่ทำางาน
            (ไร่นา) แล้วนำามาควบคุมตัวในค่ายทหาร  ระยะเวลาควบคุมตัว คือ

            ๔๕ - ๙๐ วัน ช่วง ๗ วันแรก ควบคุมตัวในหลุมลึก ๒ เมตร  จากนั้น
            ควบคุมตัวในอาคาร  ระหว่างควบคุมใช้วิธีทรมานหลายรูปแบบ เช่น
            ช็อตด้วยไฟฟ้า ตีด้วยกระบอง เพื่อให้รับสารภาพ ซึ่งส่งผลให้ผู้ถูก

            ควบคุมตัวบางคนเสียชีวิตได้
                  ๖)  คนกลุ่มอื่นที่เสี่ยงต่อการถูกบังคับให้เป็นบุคคลสูญหาย ได้แก่

                      ๖.๑) คนที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดหรือมีความขัดแย้งส่วนตัว
            กับตำารวจ ตัวอย่างเช่น เดือนมกราคม ๒๕๔๙ จังหวัดเชียงใหม่ นายพิชิต
            จะอื่อ  นายจะก๊ะ จะอื่อ (สายตำารวจ)  นายจะก่า จะอื่อ  น.ส.นาสี  จะอื่อ

            และนายจะแต จะหา ถูกจับกุมระหว่างไปตลาด  วันรุ่งขึ้นมีข่าวว่า
            หน่วยงานด้านการปราบปรามยาเสพติดได้สั่งการให้ทหารและตำารวจ

            สนธิกำาลังปราบปรามยาเสพติดและมีการกล่าวหาว่าพ่อค้ายา (นายพิชิตฯ
            นายจะก๊ะฯ) ต่อสู้เจ้าหน้าที่และถูกยิงเสียชีวิต  แต่สภาพศพของทั้งสอง
            คนคือถูกใส่กุญแจมือ เมื่อญาติถามถึงสถานที่ควบคุมตัวของอีกสามคน
                                                    ๔๕
            ที่เหลือซึ่งเป็นเยาวชน ก็ได้รับคำาตอบไม่ชัดเจน    เดือนกรกฎาคม




            ๔๔  มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ, การบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศไทย, พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๕, หน้า ๒๕.
            ๔๕  มูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพ, การบังคับบุคคลให้สูญหายในประเทศไทย, พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๕, หน้า ๓๑.




       62      การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
               หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
               รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69