Page 61 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 61

๑.๒) คำาร้องที่ ๑๒๗/๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม ๒๕๔๕

               จังหวัดยะลา สามีของผู้ร้องและเพื่อนอีก ๒ คน เป็นสายให้ตำารวจ
               ถูกกล่าวหาว่ายิงตำารวจ จึงนั่งรถจักรยานยนต์ไปกับเพื่อนคนหนึ่ง
               และอีกคนขับรถตามไป วันรุ่งขึ้นได้รับทราบจากเพื่อนของสามีที่ขับรถ

               ตามไปว่าสามีของผู้ร้องและเพื่อนที่นั่งรถจักรยานยนต์ไปด้วยกันหายไป
               ต่อมา เพื่อนที่ขับรถตามไปถูกยิงเสียชีวิต
                         ๑.๓) คำาร้องที่ ๖๖๖/๒๕๕๐ เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๐

               จังหวัดยะลา สามีของผู้ร้อง ถูกเจ้าหน้าที่ทหารพราน ๕๐ คน จับกุมไป
               จากบ้านพัก พร้อมยึดรถยนต์กระบะ ๑ คน ปืนสั้นออโตเมติก  ๑ กระบอก
               โทรศัพท์มือถือ ๑ เครื่อง โดยเจ้าหน้าที่ทหารแจ้งว่านำาตัวไปสอบสวนที่

               ค่ายทหาร โรงเรียนบันนังสตาอินทรฉัตร แล้วหายตัวไป  ผู้ร้องได้ไป
               สอบถามที่ค่ายดังกล่าวและค่ายอื่นในจังหวัดยะลาและจังหวัดปัตตานี

               ก็ไม่พบ เจ้าหน้าที่แจ้งว่าปล่อยตัวไปแล้ว แต่ไม่ให้ผู้ร้องดูเอกสารการ
               ปล่อยตัว
                     ๒)  เมื่อวันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๔๗  นายสมชาย  นีละไพจิตร

               ทนายความสิทธิมนุษยชนที่ให้ความช่วยเหลือทางคดีแก่ผู้ต้องหาคดีความ
               มั่นคงในจังหวัดชายแดนภาคใต้หายตัวไป  ต่อมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

               นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ยอมรับว่านายสมชาย นีละไพจิตรเสียชีวิตแล้ว
               และกรมสอบสวนคดีพิเศษได้รับคดีการหายตัวไปของนายสมชายฯ ไว้
               เป็นคดีพิเศษตั้งแต่วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๔๘ ปัจจุบันไม่มีความคืบหน้า

               ในเรื่องนี้
                     ๓)   จากการศึกษาของมูลนิธิยุติธรรมเพื่อสันติภาพอธิบายว่า
               ประเทศไทยมีข้อมูลการบังคับให้บุคคลสูญหายตั้งแต่ทศวรรษ ๒๔๙๐

               โดยเมื่อวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๔๙๕ นายเตียง ศิริขันธ์ ผู้เป็นแนวร่วมกับ





                          การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม  59
                              หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
                                      รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
   56   57   58   59   60   61   62   63   64   65   66