Page 42 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 42
(๔) ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา โจทก์ จำาเลย คู่กรณี ผู้มีส่วน
ได้เสียหรือพยานในคดี มีสิทธิได้รับการปฏิบัติที่เหมาะสมในการ
ดำาเนินการตามกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งสิทธิในการได้รับการ
สอบสวนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม และการไม่ให้ถ้อยคำาเป็น
ปฏิปักษ์ต่อตนเอง
(๕) ผู้เสียหาย ผู้ต้องหา จำาเลย และพยานในคดีอาญามีสิทธิ
ได้รับความคุ้มครอง และความช่วยเหลือที่จำาเป็นและเหมาะสมจากรัฐ
ส่วนค่าตอบแทน ค่าทดแทน และค่าใช้จ่ายที่จำาเป็นให้เป็นไปตามที่
กฎหมายบัญญัติ
(๖) .....................
(๗) ในคดีอาญา ผู้ต้องหาหรือจำาเลยมีสิทธิได้รับการสอบสวน
หรือการพิจารณาคดีที่ถูกต้อง รวดเร็ว และเป็นธรรม โอกาสในการต่อสู้คดี
อย่างเพียงพอ การตรวจสอบหรือได้รับทราบพยานหลักฐานตามสมควร
การได้รับการช่วยเหลือในทางคดีจากทนายความ และการได้รับการปล่อย
ตัวชั่วคราว
(๘) .......................
มาตรา ๘๑ รัฐต้องดำาเนินการตามแนวนโยบายด้านกฎหมาย
และการยุติธรรม ดังต่อไปนี้
(๑) ดูแลให้มีการปฏิบัติและบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย
อย่างถูกต้อง รวดเร็ว เป็นธรรม และทั่วถึง ส่งเสริมการให้ความช่วยเหลือ
และให้ความรู้ทางกฎหมายแก่ประชาชนและจัดระบบงานราชการและ
งานของรัฐอย่างอื่นในกระบวนการยุติธรรมให้มีประสิทธิภาพ โดยให้
ประชาชนและองค์กรวิชาชีพมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรม และการ
ช่วยเหลือประชาชนทางกฎหมาย
40 การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย