Page 40 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 40
รัฐหรือบุคคลอื่นซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในตำาแหน่งทางการ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
พันธกรณีทั้งปวงในข้อ ๑๐ ข้อ ๑๑ ข้อ ๑๒ และข้อ ๑๓ ให้นำามาใช้บังคับ
โดยการใช้แทนที่การกล่าวถึงการทรมาน หรือการกล่าวถึงการประติบัติ
่
หรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือที่ยำายีศักดิ์ศรี
๒. .......................................
๔) รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐
มาตรา ๒๙ การจำากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลที่
รัฐธรรมนูญรับรองไว้จะกระทำามิได้ เว้นแต่โดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติ
แห่งกฎหมายเฉพาะเพื่อการที่รัฐธรรมนูญนี้กำาหนดไว้และเท่าที่จำาเป็น
และจะกระทบกระเทือนสาระสำาคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพนั้นมิได้
................................
บทบัญญัติในวรรคหนึ่งและวรรคสองให้นำามาใช้บังคับกับกฎ
ที่ออกโดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายด้วยโดยอนุโลม
มาตรา ๓๒ บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและ
ร่างกาย การทรมาน ทารุณกรรม หรือการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้าย
หรือไร้มนุษยธรรม จะกระทำามิได้ แต่การลงโทษตามคำาพิพากษาของศาล
หรือตามที่กฎหมายบัญญัติไม่ถือว่าเป็นการลงโทษด้วยวิธีการโหดร้าย
หรือไร้มนุษยธรรมตามความในวรรคนี้
การจับและการคุมขังบุคคล จะกระทำามิได้ เว้นแต่มีคำาสั่ง
หรือหมายของศาลหรือมีเหตุอย่างอื่นตามที่กฎหมายบัญญัติ
การค้นตัวบุคคลหรือการกระทำาใดอันเป็นการกระทบต่อสิทธิ
และเสรีภาพตามวรรคหนึ่งจะกระทำามิได้ เว้นแต่มีเหตุตามที่กฎหมาย
บัญญัติ
38 การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม
หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย