Page 37 - การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม หรือย่ำยีศักดิ์ศรีและเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย
P. 37
มิให้เกิดการกระทำาการทรมานในอาณาเขตใด ซึ่งอยู่ภายใต้เขตอำานาจ
ของตน
๒. ไม่มีพฤติการณ์พิเศษใด ไม่ว่าจะเป็นภาวะสงคราม หรือ
สภาพคุกคามที่จะเกิดสงคราม การขาดเสถียรภาพทางการเมืองภายใน
ประเทศ หรือสภาวะฉุกเฉินสาธารณะอื่นใดที่ยกขึ้นมาเป็นข้ออ้างที่มี
เหตุผลสำาหรับการทรมานได้
๓. คำาสั่งจากผู้บังคับบัญชาหรือจากทางการ ไม่สามารถ
ยกขึ้นเป็นข้ออ้างที่มีเหตุผลสำาหรับการทรมานได้
ข้อ ๔
๑. ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐประกันว่า การกระทำาทรมานทั้งปวง
เป็นความผิดตามกฎหมายอาญาของตน ให้ใช้หลักการเดียวกันนี้บังคับ
สำาหรับการพยายามกระทำาการทรมาน และสำาหรับการกระทำาโดย
บุคคลใดที่เป็นการสมรู้ร่วมคิด หรือการมีส่วนร่วมในการทรมานด้วย
๒. ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐทำาให้ความผิดเหล่านี้เป็นความผิด
ที่มีโทษ ซึ่งมีระวางโทษที่เหมาะสมกับความร้ายแรงของการกระทำา
เหล่านั้น
ข้อ ๕
๑. ให้รัฐภาคีแต่ละรัฐดำาเนินการต่างๆ ที่อาจจำาเป็นเพื่อให้
ตนมีเขตอำานาจเหนือความผิดที่อ้างถึงในข้อ ๔ ในกรณีต่างๆ ดังต่อไปนี้
(ก) เมื่อความผิดเหล่านั้นเกิดขึ้นในอาณาเขตใดที่อยู่
ภายใต้เขตอำานาจตน หรือบนเรือ หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐนั้น
(ข) เมื่อผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนชาติของรัฐนั้น
(ค) เมื่อผู้เสียหายเป็นคนชาติของรัฐนั้น หากรัฐนั้น
เห็นเป็นการสมควร
การอนุวัติกฎหมายไทยตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอื่นที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรม 35
หรือที่ย่ำายีศักดิ์ศรี และเพื่อเตรียมรองรับการเข้าเป็นภาคีพิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานฯ
รวมทั้งอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองมิให้บุคคลถูกบังคับให้สูญหาย