Page 134 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 134

มักซ์ เวเบอร์ (Karl Emil Maximilian Weber) ได้เห็นถึงความจำาเป็นที่จะต้องมีรัฐว่า ถ้าไม่มี
                     สถาบันทางสังคมที่รู้จักวิธีการใช้ความรุนแรงในการควบคุม  ดูแลผู้คน  หรือประชาชนภายในรัฐ

                     แนวคิดเรื่องรัฐก็ไม่สามารถเกิดมีขึ้นได้  และเมื่อไม่มีรัฐ  สภาพทางสังคมก็จะมีแต่ความสับสน

                     เป็นสังคมที่ไม่มีขื่อไม่มีแป  ดังนั้น  รัฐกับการใช้ความรุนแรงในการจัดการสังคมให้เกิดความสงบ
                     เรียบร้อยจึงเป็นสิ่งที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด  และด้วยข้ออ้างในเรื่องการรักษา
                     ความสงบเรียบร้อยภายในรัฐ รัฐจึงประสบความสำาเร็จในการอ้างความชอบธรรมให้กับการใช้กำาลัง

                     อำานาจแต่เพียงผู้เดียวภายในอาณาเขตของรัฐ  จากการเล่าอ้างถึงเรื่องการก่อกำาเนิดรัฐและที่มา

                     แห่งอำานาจของรัฐ ซึ่งมีแชล ฟูโก (Michel Foucault) เสนอว่าควรพิจารณาปัญหาความซับซ้อน
                     ในเรื่องอำานาจและสิทธิของรัฐ ในการ “จัดการ” กับสังคมเพื่อที่จะได้ตระหนักรู้ว่าการอ้างถึงเรื่อง
                     อำานาจและความชอบธรรมของรัฐนั้น เป็นไปเพื่อประโยชน์ในการรักษาอำานาจ

                             สำาหรับแนวคิดเรื่องการใช้อำานาจความรุนแรงของรัฐนั้น  เวเบอร์ได้กล่าวถึงเหตุผล

                     ที่เป็นข้ออ้าง ๓ ประการ ที่รัฐใช้เพื่อสร้างความชอบธรรมในการใช้อำานาจภายในรัฐ คือ
                              ๑) จารีตประเพณีและความเชื่อที่ได้รับการปลูกฝังและถ่ายทอดกันมาตั้งแต่อดีต
                                 จนกระทั่งถึงปัจจุบัน

                              ๒) คุณลักษณะพิเศษเฉพาะตัว หรือพรสวรรค์ของผู้นำา หรือผู้ปกครอง เช่น ในอดีตเชื่อว่า

                                 ผู้นำาเป็นผู้ที่ถูกเลือกโดยพระเจ้า การใช้อำานาจ หรือความรุนแรงของผู้นำาเชื่อว่ากระทำา
                                 ไปตามความประสงค์ของพระเจ้า หากแต่ในภาวะสงคราม ผู้นำาจะมีความสามารถ
                                 ในการรบ ซึ่งการใช้อำานาจหรือความรุนแรงของผู้นำา เพื่อที่ปกป้องบ้านเมือง หรือ

                                 เมื่อเข้าสู่ยุคประชาธิปไตยที่ผู้นำา คือ ผู้ที่ได้รับเลือกจากประชาชนทั้งหลาย สามารถ

                                 ใช้อำานาจหรือความรุนแรงตามข้อกำาหนดของกฎหมายเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย
                                 ของบ้านเมือง เป็นต้น
                              ๓) ความเชื่อเรื่องความถูกต้องและชอบธรรม  กฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย

                                 เพื่อทำาให้สังคมมีความสงบเรียบร้อย อันเป็นความเชื่อที่ทำาให้รัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ

                                 มีอำานาจในการ “จัดการ” สังคม เพื่อให้สังคมเกิดความสงบสุข


                             จากแนวคิดของเวเบอร์ที่กล่าวว่า  รัฐมีวิธีการอ้างเหตุผลและความชอบธรรมในการ

                     ใช้อำานาจและความรุนแรงในการจัดการกับสังคมที่แตกต่างกันไปในแต่ละยุคสมัย  เช่น  ในสมัย

                     โบราณผู้คนในสังคมให้การนับถือผู้นำาทางศาสนาหรือผู้เผยแพร่ศาสนา ก็อาจจะออกกฎหมายลงโทษ
                     ผู้ที่นับถือศาสนา  หรือลัทธิอื่น  หากแต่เมื่อยามมีสงครามก็นับถือนักรบในฐานะผู้นำาซึ่งมีอำานาจ
                     เด็ดขาดในการลงโทษผู้คนเพื่อนำาพาประเทศให้พ้นภัยสงคราม  และรัฐสมัยใหม่ในปัจจุบัน  ผู้ที่มี

                     อำานาจก็เปลี่ยนเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงสูงสุดจากการเลือกตั้งของประชาชน

                     ผู้นำาจึงมีอำานาจในการกำาหนดนโยบายของรัฐ  ซึ่งอาจเป็นนโยบายที่ทำาให้เกิดความรุนแรง
                     ในสังคม ซึ่งอาจกล่าวได้ ไม่ว่ารัฐจะมีระบอบการปกครองที่เปลี่ยนไปอย่างไร หรือมีวิธีเลือกผู้นำา






                                                                       โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 121
   129   130   131   132   133   134   135   136   137   138   139