Page 136 - รายงานการศึกษาเรื่องโทษประหารชีวิตในประเทศไทย
P. 136

กระทำาเพื่อปกป้องสิทธิเสรีภาพ  และความสงบสุขของประชาชนส่วนใหญ่ในสังคม  มากกว่า
                     ที่จะกระทำาเพื่อการปกป้องใครคนใด หรือคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสังคมเท่านั้น

                             ปัญหาจากการที่รัฐใช้ความรุนแรงจัดการกับปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นภายในรัฐนั้น เวเบอร์

                     กล่าวว่า การที่รัฐเลือกที่จะจัดการกับปัญหาภายในด้วยการใช้ความรุนแรง ก็เนื่องมาจากการที่รัฐ
                     ถือกำาเนิดเกิดขึ้นมาจากการใช้กำาลัง  และเป็นเพียงสถาบันเดียวที่ผูกขาดการใช้กำาลังอย่างถูกต้อง
                     ตามกฎหมายภายในอาณาบริเวณของรัฐ  ดังนั้น  รัฐจึงสามารถใช้อำานาจอันชอบด้วยกฎหมายนี้

                     เป็นข้ออ้างในการใช้ความรุนแรงลงโทษประชาชนผู้ที่กระทำาผิดกฎหมายของรัฐ

                             ประเด็นเรื่องการใช้ความรุนแรงของรัฐต่อประชาชนนั้น ฮันนาห์ อาเร็นดท์ (Hannah Arendt)
                     ได้ให้ความเห็นว่า  ไม่มีรัฐหรือรัฐบาลใดที่ปกครองด้วยความรุนแรงแล้วจะอยู่ได้อย่างโดดเดี่ยว
                     คนเพียงคนเดียวไม่สามารถใช้ความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพฉันใด  รัฐก็ไม่สามารถใช้ได้เช่น

                     เดียวกัน  การใช้ความรุนแรงจึงเหมือนกับการใช้เครื่องมือชนิดอื่นๆ  ที่จำาเป็นต้องมีคู่มือในการใช้

                     และเหตุผลข้ออ้างในการที่จะใช้ความรุนแรง อย่างไรก็ตาม ความรุนแรงถือเป็นมาตรการขั้นสุดท้าย
                     หรือวิธีการขั้นเด็ดขาดที่รัฐจะใช้จัดการกับปัญหาหรือตอบโต้ใครคนใดก็ตามที่ละเมิด หรือปฏิเสธที่จะ
                     ปฏิบัติตามอำานาจที่มีฐานมาจากเสียงส่วนใหญ่ของรัฐหรือมติมหาชน ดังนั้น ในการใช้ความรุนแรง

                     รัฐจึงจำาเป็นต้องสร้างเหตุผลข้ออ้างมารองรับเสียงการสนับสนุนจากประชาชนส่วนใหญ่ของรัฐ

                             อาเร็นดท์กล่าวว่าการสนับสนุนของประชาชนต่อการใช้ความรุนแรงของรัฐ คือ การมอบ
                     อำานาจ และการให้การรับรองการทำางานของสถาบันต่าง ๆ ภายในรัฐ ซึ่งการสนับสนุนของประชาชน
                     ต่อการใช้อำานาจของรัฐนี้  ทำาให้เกิดการบัญญัติตัวบทกฎหมายและสถาบันต่าง  ๆ  ขึ้นภายในรัฐ

                     ภายใต้เงื่อนไขที่ว่ารัฐจะต้องทำาหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน ดังนั้น ประชาชนจึงควรที่จะมีอำานาจ

                     เหนือรัฐ  รัฐบาล  และสถาบันต่างๆ  ที่เกิดขึ้นจากการมอบอำานาจและการให้การรับรองนั้น
                     อย่างไรก็ตาม เสียงสนับสนุนของประชาชน คือ อำานาจของรัฐซึ่งขึ้นอยู่กับจำานวนของผู้สนับสนุน
                     ถ้ารัฐได้รับการยอมรับและมีเสียงสนับสนุนมากก็อาจนำาไปสู่การใช้อำานาจการปกครองแบบ

                     เผด็จการด้วยเสียงข้างมาก และการใช้ความรุนแรงภายในรัฐได้

                             นอกจากนี้ จากการที่รัฐกล่าวอ้างถึงเรื่องจำานวน ไม่ว่าจะเป็นการอ้างถึงจำานวนประชากร
                     ที่ดิน หรือสินทรัพย์ จำานวนผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการละเมิดข้อกำาหนดของรัฐ จึงเปรียบเสมือน
                     เป็นเทคนิคที่สำาคัญของรัฐในการควบคุมสังคม  และในการสร้างความเชื่อต่อความเป็นธรรมให้กับ

                     การใช้ความรุนแรงของรัฐ  โดยการกล่าวอ้างว่าผู้ที่ละเมิดกฎหมายนั้นเป็นภัยคุกคามต่อสังคม

                     และเป็นเพียงบุคคลเดียวหรือกลุ่มบุคคลส่วนน้อยเท่านั้น  ซ้ำายังเป็นอันตรายอย่างมากต่อสังคม
                     ส่วนใหญ่หรือประชาชนส่วนมากของรัฐ  ถ้าไม่  “กำาจัด”  บุคคลดังกล่าวออกไปจากสังคม  ดังนั้น
                     จึงเป็นสิ่งที่สังคมหรือประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นชอบ และให้การสนับสนุนกับการที่รัฐจะ “ฆ่า” หรือ

                     “กำาจัด” ผู้ที่กระทำาผิดร้ายแรงให้ออกไปจากสังคมอย่างถาวร หรือกระทำาการลงโทษประหารชีวิต

                     บุคคลหรือกลุ่มบุคคลที่  (อาจจะ)  เป็นอันตรายต่อรัฐและประชาชนในสังคมตามที่รัฐกล่าวอ้าง








                                                                       โทษประหารชีวิตในประเทศไทย 123
   131   132   133   134   135   136   137   138   139   140   141